AMANAH ร่วง 11.35% หลังกำไรไตรมาสแรกวูบแรง NPL พุ่ง 4.2%

ราคาหุ้น บริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) "AMANAH" ปิดตลาดเช้าวันนี้ (11 พ.ค. 66) ที่ราคา 3.28 บาท ปรับตัวลดลง 0.42 บาท (-11.35%) มูลค่าซื้อขาย 51.76 ล้านบาท จากราคาเปิด 3.30 บาท ราคาต่ำสุด 3.24 บาท และราคาสูงสุด 3.34 บาท

การปรับลดลงของราคาหุ้นมีเหตุหลังจากบริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาสแรกของปี 66 ที่ 43 ล้านบาท (-42% YoY, -53% QoQ) ต่ำกว่าตลาดคาดไว้ที่ 71 ล้านบาท

กำไรสุทธิหดตัว YoY/QoQ จากประเด็นดังนี้

1. NPL เพิ่มขึ้นเป็น 4.2% จากพฤติกรรมลูกหนี้เปลี่ยนแปลง หลังค่าปรับ/ค่าติดตามหนี้ลดลง
2. Credit cost เพิ่มขึ้นเป็น 5.8% ตาม NPL ที่สูงขึ้น และการตัดจำหน่ายหนี้เสียเพิ่ม
3. Cost to income สูงขึ้นที่ 46% จากการรับรู้ขาดทุนรถยึดที่เพิ่ม คาดว่าบริษัทจะยังคงรับรู้ขาดทุนรถยึดที่สูงต่อเนื่องในปี 66 โดยเป็นผลของการปรับเปลี่ยนนโยบายให้เร่งยึดรถ แทนการติดตามหนี้ ทำให้มูลค่ารถยึดเพิ่มขึ้นสูงถึง 145 ล้านบาท (+375% YoY, +13% QoQ)

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) ยังคงแนะนำ "ถือ" หุ้น AMANAH แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 3.70 บาท จากเดิม 4.00 บาท อิง 2023E PBV ที่ 2.1x (3-yr average PBV)

พร้อมปรับกำไรสุทธิในปี 66 ลง -33% เป็น 210 ล้านบาท (-32% YoY) จากการปรับเพิ่ม NPL, credit cost และ cost to income เพิ่มขึ้น ขณะที่ยังคงคาดการณ์ยอดขยายตัวสินเชื่อที่ +17% (YoY) ราคาหุ้นใกล้เคียง SET ในช่วง 1-6 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้คงแนะพียง "ถือ" เนื่องจากแนวโน้มสินเชื่อที่จะกลับมาดีขึ้น รวมทั้งในระยะสั้นประเมินว่าบริษัทจะยังไม่มี Catalyst ใหม่ที่จะมาช่วยหนุนผลการดำเนินงานให้กลับมาดีขึ้น ซึ่งเหมาะสมกับราคาหุ้นปัจจุบัน