สนง.สลากฯ ลุยหวย L6 ขาย "สลากดิจิทัล" งวดละ 25 ล้านใบ

05 เม.ย. 2566 | 15:37 น.
อัปเดตล่าสุด :05 เม.ย. 2566 | 17:38 น.

สนง.สลากฯ ก้าวสู่ยุคดิจิทัล ลุยหวย L6 ขายผ่าน "สลากดิจิทัล" บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง วางเป้าภายในปีนี้ จำหน่ายงวดละ 25 ล้านใบ ส่วนสลากเลข 3 หลัก พร้อมขายผ่านดิจิทัล

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯ ได้เสนอร่างประกาศ เรื่อง  สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือ LOTTERY 6 (L6)  พ.ศ.2566 ให้กระทรวงการคลังพิจารณา และนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อเห็นชอบตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป 

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล 

ทั้งนี้ หลังจากครม.เห็นชอบร่างประกาศ เรียบร้อย สำนักงานสลากฯจะสามารถเดินหน้า L6 ได้ ซึ่งจะทำให้ สำนักงานสลากฯ ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพราะสามารถออกลอตเตอรี่ L6 แบบใหม่ ซึ่งเป็นดิจิทัลตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นขบวนการ จากปัจจุบันใช้วิธีสแกนสลากใบ แล้วนำเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ โดยคาดว่าปีนี้ จะมีสลากดิจิทัล บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ประมาณ 25 ล้านใบต่องวด อย่างไรก็ดี จำนวนต้องสอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริงของประชาชนด้วย 

"จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 84 ปีแล้ว สำนักงานสลากฯ ได้ปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นภารกิจถ้าเราสามารถปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้ เชื่อมั่นว่าการบริการประชาชน และการดำเนินการสำหรับนโยบายของสำนักงานสลากกินแบ่ง ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายลวรณกล่าว 

นายลวรณ กล่าวว่า ปัจจุบันกระบวนการของสลากดิจิทัล ยังไม่ใช่ดิจิทัล 100% โดยในปีนี้เราจะได้เห็น ถ้าโครงการล็อตเตอรี่L6 แล้วเสร็จ  ส่วนสลากเลข  3 หลัก หรือ N3 ก็ชัดเจนแล้วว่าจะเป็นรูปแบบการขายผ่านช่องทางดิจิทัล ส่วนกระบวนการทำงาน ของสำนักงานสลากฯ ก็ต้องปรับปรุง ให้ดิจิทัล เข้ามาช่วยทำงานอย่างจริงจัง และบริการพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น 

ส่วนสำนักงานสลากฯ จะปรับสู่ระบบสลากดิจิทัลทั้งหมดเมื่อไหร่นั้น นายลวรณ กล่าวว่า ถ้าพี่น้องประชาชนพร้อม ก็สามารถเปลี่ยนเข้าไปสู้สลากดิจิทัลทั้งหมดได้เลย เพราะระบบของสำนักงานสลากมีความพร้อมแล้ว แต่เชื่อว่ายังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ต้องสลากแบบใบ ที่จับต้องได้ ซึ่งสลากใบนั้น ควบคุมเรื่องของราคายาก  

โดยโครงการสลาก 80 บาท เป็นจุดเชื่อม ทำให้เกิดการขายที่ 80 บาทจริง เพราะมีการควบคุมการขายผ่านแอพลิเคชัน ซึ่งโครงการคงไม่ใช่ว่าจะมีอยู่ตลอดไป เป็นเพียงมาตรการที่จะรองรับไปสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น