กองทุนพันธบัตรรัฐบาลไทยฮอต ปิดขายก่อนกำหนด

13 ก.พ. 2566 | 16:26 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ก.พ. 2566 | 16:26 น.
661

บลจ.อีสท์สปริง เผยกองทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย ฮอต ปิดขายก่อนกำหนด เตรียมเปิดจองซื้อรุ่นใหม่ 14-20 ก.พ.นี้ โอกาสรับผลตอบแทน 1.50% ต่อปี

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด (บลจ.อีสท์สปริง)เปิดเผยว่า บริษัทฯประสบความสำเร็จจากการเสนอขาย “กองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐบาล 1Y6” (ES-GOV1Y6) ซึ่งเป็นกองทุนประเภทเทอมฟันด์ ที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 1 ปี โดยสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนความต้องการของนักลงทุนจำนวนมากที่กำลังมองหาโอกาสรับผลตอบแทนที่แน่นอนภายใต้ความเสี่ยงต่ำ

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.อีสท์สปริง

ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว บริษัทฯ จึงเตรียมเปิดเสนอขาย “กองทุนเปิดอีสท์สปริงพันธบัตรรัฐบาล 1Y7”  (ES-GOV1Y7) มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท  ตั้งแต่วันที่ 14-20 กุมภาพันธ์ 2566นี้

กองทุน ES-GOV1Y7 มีนโยบายนำเงินไปลงทุนในตราสารภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก  หรือค้ำประกัน  ในอัตราส่วนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ซึ่งกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อลดความเสี่ยง (Hedging)

ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในสัดส่วน 100% ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ  1.67% ต่อปี โดยหลังจากหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.17 % ต่อปีของ NAV  แล้ว คาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 1.50 % ต่อปีของ NAV

"เรามองว่า การกระจายพอร์ตลงทุนไปในพันธบัตรรัฐบาลไทย เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวมจากสถานการณ์ลงทุนที่มีความผันผวน เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้ดีจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภค รวมถึงมาตรการทางการคลังที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ"นางสาวดารบุษป์กล่าว

สำหรับกองทุน ES-GOV1Y7 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐ จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก โดยจะลงทุนครั้งเดียว และถือทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold)

บริษัทฯ จะดำเนินการให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บริษัทจัดการเปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ

อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ โดยผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 1 ปีได้

ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และบริษัทจัดการจะสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ