เปิดสถิติผลตอบแทนตลาดหุ้นไทย"ก่อน-หลังเลือกตั้ง"สแกนกลุ่มหุ้นเด่น

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ "PI" เปิดเผยว่า จากการทำการศึกษาสถิติการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้งกลางเทอมของประเทศสหรัฐ และการเลือกตั้งทั่วไปของไทย พบว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งของไทย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน เม.ย.- ต้นเดือนพ.ค. แต่จะปรับลดลงหลังเลือกตั้ง

นอกจากนั้นจากสถิติผลตอบแทน S&P 500 ในปีหลังเลือกตั้งกลางเทอม (พ.ย. 2565 ) มักจะดีในครึ่งปีแรก แต่แย่ในครึ่งปีหลัง ดังนั้นจากสถิติการเลือกตั้งสหรัฐฯ และการเลือกตั้งไทยตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ถึงเดือนเม.ย. 

สถิติผลตอบแทนตลาดหุ้นไทย ก่อนและหลังเลือกตั้ง 2548-2562

            เลือกตั้งปี 2548

              เลือกตั้งปี 2554

              เลือกตั้งปี 2562

บล.พาย ยังเตือนนักลงทุนระมัดระวังตลาดหุ้นหลังการเลือกตั้งว่า SET INDEX อาจมีการปรับฐานได้ โดยอุตสาหกรรมที่โดดเด่นก่อนเลือกตั้งคือ กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก อาหาร และอสังหาริมทรัพย์ ส่วนหลังเลือกตั้งกลุ่มที่โดดเด่นได้แก่ ค้าปลีกและอาหาร ส่วนรับเหมาก่อสร้างมักจะปรับขึ้นเพียง
ระยะสั้นๆ หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง 
 

9 หุ้นแนะนำได้แก่ 

• บมจ.ธนาคารกรุงเทพ ( BBL )  :  ราคาเป้าหมาย 171 บาท
• บมจ.ธนาคารกรุงไทย ( KTB)  : ราคาเป้าหมาย 20.80 บาท
• บมจ.บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป : ราคาเป้าหมาย 116.00 บาท
• บมจ.ซีพี ออลล์ ( CPALL)  : ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท
• บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์  ( BJC ) : ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท
• บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ ( HMPRO) : ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท
• บมจ. ศุภาลัย ( SPALI) : ราคาเป้าหมาย 28.40 บาท
• บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ( ORI ) ราคาเป้าหมาย 14.00 บาท 
• บมจ.เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท