ดาวโจนส์ปิดบวกกรอบแคบ 6.92 จุด หลังพาวเวลเผยเงินเฟ้อชะลอตัว

02 ก.พ. 2566 | 06:29 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2566 | 07:04 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกในวันพุธ (1 ก.พ.) หลังเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุว่า เงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มชะลอลง

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,092.96 จุด เพิ่มขึ้น 6.92 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,119.21 จุด เพิ่มขึ้น 42.61 จุด หรือ +1.05% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,816.32 จุด พุ่งขึ้น 231.77 จุด หรือ +2.00%          

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันทีหลังจากคณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจากที่ปรับขึ้น 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยคณะกรรมการเฟดระบุว่า "แม้เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเพิ่มกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยต่อไป"

อย่างไรก็ดี ตลาดดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา หลังจากนายพาวเวลกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง พร้อมกับแสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแรงกดดันที่ลดลงในตลาดการเงิน เช่นตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
         

แองเจโล คอร์คาฟาส นักวิเคราะห์จากบริษัท Edward Jones กล่าวว่า "นายพาวเวล มีโอกาสที่จะใช้เวทีการแถลงข่าวเพื่อส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก แต่เขาไม่ทำ และเขามีโอกาสที่จะพูดว่าตลาดตื่นตระหนกมากเกินไป แต่เขาก็ไม่ทำ โดยเขากล่าวว่าเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลงและภาวะเงินเฟ้อต่ำเริ่มปรากฎให้เห็นแล้วในขณะนี้ ซึ่งนักลงทุนมองว่านายพาวเวลส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 2 ครั้งเท่านั้น

ทั้งนี้ หลังจากการแถลงข่าวของนายพาวเวล ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุด (terminal rate) ของเฟดจะอยู่ที่ 4.892% ภายในเดือนมิ.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 4.92% ก่อนการแถลงข่าวของนายพาวเวล

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 2.3% โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.99% หุ้นแอปเปิ้ล บวก 0.79% หุ้นอัลฟาเบท ดีดขึ้น 1.61% หุ้นเมตา แพลตฟอร์ม พุ่งขึ้น 2.79% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ทะยานขึ้น 12.63%

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.9% หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 3.42% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.09% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.53% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 0.93%
         

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 47.4 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2563

ทางด้านสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 572,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 11.0 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 10.25 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 10.44 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ย.

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 187,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% ในเดือนม.ค. จากระดับ 3.5% ในเดือนธ.ค.