ธ.ก.ส.จัด 6,000 ล้าน หนุนชดเชยดอกเบี้ยเกษตรกรไร่อ้อย

14 ธ.ค. 2565 | 21:13 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2565 | 04:15 น.

ธ.ก.ส. จัดวงเงิน 6,000 ล้านบาท ชดเชยรายได้ดอกเบี้ยเกษตรกรไร่อ้อยปี 2565 - 2567 หนุนเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการอ้อยอย่างยั่งยืน ลดปัญหา PM 2.5

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้จัดวงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี วงเงินรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ดำเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)

สำหรับบริหารจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรในไร่อ้อยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2565 - 2567

สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคลและวิสาหกิจชุมชน ที่ขึ้นทะเบียนการปลูกอ้อยกับ สอน. และเป็นคู่สัญญากับโรงงานน้ำตาลที่ให้การรับรองเกษตรกร

 

วงเงินแบ่งตามวัตถุประสงค์ในการกู้ ได้แก่

  1. เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย วงเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท อาทิ การขุดบ่อสระกักเก็บน้ำ การเจาะบ่อบาดาล การจัดทำระบบน้ำ การจัดซื้อเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์ให้น้ำในไร่อ้อยและการรวมกลุ่มสร้างหรือพัฒนาปรับปรุงระบบการส่งน้ำ
  2. เพื่อปรับพื้นที่ปลูกอ้อยไปสู่เกษตรแปลงใหญ่ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท (อัตราไร่ละไม่เกิน 2,500 บาท)
  3. เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร (ประเภทรถตัดอ้อย รถคีบอ้อย หรืออุปกรณ์ส่วนควบ) วงเงินสูงสุดไม่เกิน 26.05 ล้านบาท
  • กรณีเป็นเกษตรกรบุคคล คิดอัตราดอกเบี้ย MRR  (ปัจจุบัน MRR เท่ากับ 6.50% ) โดยเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียง 2%ต่อปี รัฐบาลจะจ่ายชดเชยดอกเบี้ยแทน 3% ต่อปี และ ธ.ก.ส. รับภาระเอง 1.5% ต่อปี
  • กรณีเป็นกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคล หรือวิสาหกิจชุมชน คิดอัตราดอกเบี้ย MLR (ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 4.88%) โดยกลุ่มเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียง 2% รัฐบาลจะจ่ายชดเชยดอกเบี้ยแทน 2%ต่อปี และ ธ.ก.ส. รับภาระเองในอัตรา 0.875%ต่อปี
  • กรณีกู้เงิน เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร (ประเภทรถแทรกเตอร์ รถบรรทุก และพ่วงบรรทุก) วงเงินสูงสุดไม่เกิน 11 ล้านบาท จะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้กู้ ทั้งเกษตรกรรายบุคคลและกลุ่มเกษตรกร ในอัตรา 4% โดยรัฐบาลจะไม่ชดเชยในส่วนนี้ แต่ ธ.ก.ส. จะเป็นผู้รับภาระในส่วนที่เหลือแทน

 

 

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง ธ.ก.ส. สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและโรงงานน้ำตาล เพื่อสนับสนุนแหล่งเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สถาบัน กลุ่มบุคคล หรือวิสาหกิจชุมชนชาวไร่อ้อย

 

เพื่อบริหารจัดการแหล่งน้ำ เช่น การจัดหาแหล่งน้ำสำรองในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง การปรับพื้นที่การปลูกอ้อยไปสู่เกษตรแปลงใหญ่ รวมถึงการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอ้อยและลดต้นทุนในระยะยาว ลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในไร่อ้อย

 

สอดคล้องกับเป้าหมายในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ลดการพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม พร้อมเสริมสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่เกิดจากการเผาอ้อย