ดาวโจนส์ปิดบวก 56 จุด เก็งเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด

16 พ.ย. 2565 | 06:33 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2565 | 13:45 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดบวกในวันอังคาร (15 พ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ตลาดถูกกดดันหลังมีรายงานว่าขีปนาวุธของรัสเซียถูกยิงตกในโปแลนด์

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,592.92 จุด เพิ่มขึ้น 56.22 จุด หรือ +0.17%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,991.73 จุด เพิ่มขึ้น 34.48 จุด หรือ +0.87% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,358.41 จุด เพิ่มขึ้น 162.19 จุด หรือ +1.45%
         

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3% และชะลอตัวลงจากระดับ 8.4% ในเดือนก.ย. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 5.6% ในเดือนก.ย.
         

ทั้งนี้ การชะลอตัวลงของเงินเฟ้อทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนธ.ค. โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 80.6% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 19.4% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อย่างวอลมาร์ท และโฮม ดีโปท์ โดยวอลมาร์ทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.50 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 ดอลลาร์ ส่วนโฮม ดีโปท์เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 4.24 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.12 ดอลลาร์
         

ผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนราคาหุ้นวอลมาร์ทและหุ้นโฮม ดีโปท์ และยังเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นบริษัทค้าปลีกรายอื่น ๆ ด้วย โดยหุ้นวอลมาร์ท พุ่งขึ้น 6.62% หุ้นโฮม ดีโปท์ ดีดขึ้น 1.63% หุ้นทาร์เก็ต พุ่งขึ้น 3.31% หุ้นโลว์ส (Lowe's) พุ่งขึ้น 2.03% หุ้นเบสท์ บาย พุ่งขึ้น 1.80%

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นขานรับแนวโน้มการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยหุ้นเมตา ทะยานขึ้น 2.50% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.86% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.19% หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 1.82%



หุ้นบริษัทอินเทอร์เน็ตและค้าปลีกของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นขานรับรายงานที่ว่า ยอดค้าปลีกทางออนไลน์ของจีนในเดือนต.ค.พุ่งขึ้นกว่า 15% และยอดค้าปลีกออนไลน์ในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้พุ่งขึ้น 7.2% โดยหุ้นอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 11.17% หุ้นเน็ทอีส พุ่งขึ้น 9.75% หุ้นไป่ตู้ พุ่งขึ้น 9.02% หุ้นพินตัวตัว (Pinduoduo) พุ่งขึ้น 8.53%
         

 

อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากสำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของหน่วยข่าวกรองสหรัฐว่า ขีปนาวุธของรัสเซียถูกยิงตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางฝั่งตะวันออกของโปแลนด์ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
         

สตีฟ ซอสนิค นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเตอร์แอคทีฟ โบรกเกอร์กล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดช่วงบวกหลังจากมีรายงานว่าจรวดของรัสเซียถูกยิงตกในดินแดนโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายลง อย่างไรก็ดี ขณะนี้ตลาดเพียงแค่วิตกกังวลเท่านั้น ยังไม่ถึงกับตื่นตระหนก"