ทองคำนิวยอร์กปิดลบ 50 เซนต์ บอนด์ยีลด์เพิ่มกดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี(13 ต.ค.) ถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งจะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงต่อไป
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 0.5 ดอลลาร์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,677 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 18.918 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 15.4 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 896.4 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 19.20 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 2,117.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด ซึ่งจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงต่อไป โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงถึง 4.1253%
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 8.1% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 6.5% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง
ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สหรัฐยังคงเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ และไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงสู่ระดับที่อาจจะทำให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย