ทางเลือกลงทุนยุคเงินเฟ้อสูง พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond)

16 ส.ค. 2565 | 05:59 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ส.ค. 2565 | 14:14 น.
743

ทางเลือกการลงทุนในยุคเงินเฟ้อสูง...พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond) : บทความโดย สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA )

นับจากจากต้นปี 2565 เงินเฟ้อของไทยเริ่มพุ่งตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยราคาอาหารและพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอันเป็นผลสืบเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน และมาตรการ Zero Covid ของจีน ก่อให้เกิดปัญหาคอขวดของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกได้ประสบภาวะเงินเฟ้อสูงเช่นเดียวกันกับประเทศไทย


เงินเฟ้อไทยในเดือน มิ.ย. 2565 อยู่ที่ 7.66% สูงสุดรอบ 13 ปี

 

เงินเฟ้อไทยในเดือน มิ.ย. 2565 ที่ 7.66% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากเดือน พ.ค. 2565 ที่ 7.10% โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าในปี 2565 อัตราเงินเฟ้อของไทยเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 5.9% สูงสุดในรอบ 24 ปี เงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลให้อำนาจซื้อของผู้บริโภคลดลง แล้วนักลงทุนควรลงทุนในสินทรัพย์อะไรเพื่อรักษาอำนาจการซื้อไม่ให้ลดลง

เมื่อเงินเฟ้อสูง ก็มักจะพูดถึงพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond)

 

พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond) เป็นพันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทนแปรผันไปตามการเปลี่ยนแปลงของดัชนีอัตราเงินเฟ้อ โดยผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อจะประกอบด้วย 3 ส่วน คือ

 

  • 1.อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว 
  • 2.ส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนดอกเบี้ย ผู้ลงทุนจะได้รับเป็นรายงวดพร้อมกับดอกเบี้ยหน้าตั๋ว และ
  • 3.ส่วนชดเชยเงินเฟ้อบนเงินต้น เมื่อพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อครบกำหนดไถ่ถอน กรณีเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นและบวกด้วยส่วนชดเชยเงินเฟ้อ แต่ถ้าเงินเฟ้อมีการปรับตัวลดลง นักลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนตามมูลค่าหน้าตั๋วโดยไม่หักลดกับอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบ

 

ดังนั้นการลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ นักลงทุนจะได้รับการปกป้องจากเงินเฟ้อรักษาอำนาจซื้อให้ไม่ลดลง ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการออกพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ ทั้งสิ้น 2 รุ่นมูลค่ารวม 2.17 แสนล้านบาท โดย ณ วันที่ 12 ก.ค. 2565 มีพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อคงเหลือ 1 รุ่น ( ILB283A ครบกำหนด 12 มี.ค. 2571) อีกรุ่นหนึ่งครบกำหนดอายุไปแล้ว ทำให้มีมูลค่าคงค้างที่ 1.07 แสนล้านบาทคิดเป็น 1.5% ของมูลค่าคงค้างพันธบัตรของไทย ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีสัดส่วนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ 7.5% ของมูลค่าคงค้างพันธบัตรรัฐบาล (ณ สิ้น เม.ย. 2565) อย่างไรก็ตาม พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อไทยเป็นตราสารหนี้ประเภทหนึ่งที่น่าสนใจในช่วงที่เงินเฟ้อสูง

จะหาซื้อพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond) ได้จากที่ไหน

 

การซื้อพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อโดยตรงเป็นไปได้ยาก เพราะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดรองน้อย ดังนั้นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ คือการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรดังกล่าว ปัจจุบันมีเพียง 1 กองทุน คือ “กองทุนเปิดกรุงไทยอ้างอิงเงินเฟ้อ” (KTILF) ของ บลจ.กรุงไทย จากต้นปีกองทุน KTILF สร้างผลตอบแทนที่ +6% (YTD) ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน

 

ทางเลือกลงทุนยุคเงินเฟ้อสูง พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond)    ทางเลือกลงทุนยุคเงินเฟ้อสูง พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond)

 

กล่าวโดยสรุป การลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อจะสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้ อย่างไรก็ตามการลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงด้านอื่นประกอบการตัดสินใจ และก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง ควรวางแผนระยะเวลาลงทุนให้เหมาะสมกับความต้องการใช้เงินในอนาคต

 

ที่มา :  สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)