วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง กดดันราคาน้ำมัน WTI ปรับลดปิดที่ 95.78 ดอลล์ 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 52 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 95.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
         

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 99.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
         

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.75% หรืออาจแรงถึง 1% ในการประชุมเดือนนี้ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าการคาดการณ์

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าระดับ 8.6% ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.8%
         

สัญญาน้ำมันดิบได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.53% แตะที่ 108.5420 เมื่อคืนนี้

การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
         

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การที่จีนยังคงใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายเมืองนั้น จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน