น้ำมัน WTI บวก 0.5% ปิดที่ 96.30 ดอลล์ นักลงทุนช้อนซื้อหลังราคาร่วงหนัก

14 ก.ค. 2565 | 06:47 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.ค. 2565 | 13:48 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ในวันพุธ (13 ก.ค.) ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าเฟด เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อพุ่ง


          

          
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 96.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
         

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 99.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
         

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวในกรอบแคบ โดยแม้ว่านักลงทุนจะเข้าช้อนซื้อหลังจากราคาร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แต่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 ก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5 แสนบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 3.5 แสนบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล
         

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หากเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าระดับ 8.6% ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.8%

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้น 6.0% แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.8%