บลจ.ไทยพาณิชย์ จัดเต็มกับ SSF e-class ตอบโจทย์แบบคุ้มครบ

14 มิ.ย. 2565 | 17:36 น.
อัปเดตล่าสุด :15 มิ.ย. 2565 | 00:36 น.

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดมิติใหม่แบบ จัดเต็มกับ SSF e-class ผสานจุดเด่นของ 2 ชนิดกองทุนเข้าด้วยกันระหว่าง SSF กับ e-class ตอบโจทย์แบบคุ้มครบ ทั้งลดหย่อนภาษี และฟรีค่าธรรมเนียม

นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (บลจ.ไทยพาณิชย์)เปิดเผยว่า บลจ.ไทยพาณิชย์เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนระยะยาวผ่านกองทุนรวม จึงได้นำเสนอกองทุนรวมชนิด SSF e-class ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

นายอาชวิณ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด

 

โดยผสานจุดเด่นของ 2 ชนิดกองทุนเข้าด้วยกันคือ กองทุนรวมชนิดเพื่อการออม (SSF) ซึ่งผู้ลงทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และกองทุนรวมชนิด e-class ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียมและสามารถลงทุนเริ่มต้นเพียง 1 บาท เพื่อให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งลดหย่อนภาษีและฟรีค่าธรรมเนียมไปพร้อมๆ กัน โดยกองทุนรวมชนิด SSF e-class นี้ จะเปิดให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click เท่านั้น

นอกจากนั้นยังได้คัดสรรกองทุนรวมชนิด SSF e-class นำเสนอให้กับผู้สนใจมากถึง 37 กองทุน ครอบคลุมหลากหลายประเภทสินทรัพย์ในทุกภูมิภาค เพื่อให้ผู้ลงทุนเลือกลงทุนได้ตามวัตถุประสงค์ของตนเอง และปรับเปลี่ยนการลงทุนในพอร์ตได้อย่างเหมาะสมตลอดช่วงระยะเวลาลงทุน โดยสามารถลงทุนได้สูงสุด 200,000 บาทต่อผู้ลงทุน และเมื่อรวมกับกองทุนรวมชนิด e-class อื่นๆ สามารถลงทุนได้สูงสุด 1 ล้านบาทต่อผู้ลงทุน

 

“ปัจจุบันตลาดสินทรัพย์ทั่วโลก กำลังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเงินเฟ้อสูงเป็นประวัติการณ์จนธนาคารกลางของหลายประเทศ เริ่มประกาศนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาของสินทรัพย์ต่างๆผันผวนอย่างมาก และบางสินทรัพย์เริ่มมีราคาน่าดึงดูดเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน”

บลจ.ไทยพาณิชย์มองว่า เป็นช่วงจังหวะดีที่ผู้ลงทุนจะเริ่มเข้าทยอยลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการลงทุนในกองทุนชนิด SFF e-class ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว เนื่องจากการที่ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุนหักภาษีได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจัดการในทุกๆปีที่ลงทุนนั้น จะสร้างความแตกต่างต่อผลตอบแทนเป็นอย่างมาก

 

สำหรับความน่าสนใจของตลาดหุ้นในแต่ละภูมิภาค

  • ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก และมีบริษัทจดทะเบียนชั้นนำระดับโลกที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว แนะนำกองทุน SCBS&P500(SSFE) ที่มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี S&P500 และกองทุน SCBNDQ(SSFE) ที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี NASDAQ-100 ที่รวมหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ
  • ตลาดหุ้นจีน จากการที่มีการปรับลดระดับราคาลงในช่วงที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจีนเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายกฎระเบียบ และการขยายตัวการบริโภคจะช่วยหนุนให้การลงทุนในจีนดีขึ้น จึงเป็นโอกาสที่น่าทยอยเข้าสะสมในช่วงนี้เช่นกัน แนะนำกองทุน SCBASHARE(SSFE) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ เหมาะกับคนที่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีน
  • ตลาดหุ้นเวียดนาม ที่ยังโดดเด่นจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและมีเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาหุ้นยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง แนะนำกองทุน SCBVIET(SSFE) ที่เน้นลงทุนหุ้นเวียดนามที่มีศักยภาพเติบโตและใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Active จัดสรรพอร์ตแบบสมดุล เพื่อหาผลตอบแทนในทุกสถานการณ์ในระยะยาว