5 ขั้นตอน สร้างแผนการลงทุนกองทุนรวม ฉบับมือใหม่

22 พ.ค. 2565 | 12:37 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ค. 2565 | 19:37 น.

การลงทุนใน "กองทุนรวม" เป็นอีกทางเลือกสำหรับมือใหม่ที่เริ่มลงทุน เพราะมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพมาช่วยคัดสรรสินทรัพย์ ช่วยดูงบการเงินของบริษัทที่จะลงทุน หรือคอยปรับพอร์ตลงทุนตามสถานการณ์

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการแบ่งเงินมาลงทุน การลงทุนผ่านกองทุนรวมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพมาช่วยคัดสรรสินทรัพย์ ช่วยดูงบการเงินของบริษัทที่จะลงทุน หรือคอยปรับพอร์ตลงทุนตามสถานการณ์ จึงช่วยประหยัดเวลาและเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ลงทุนไม่มาก

 

อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมก็มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย รวมถึงลงทุนได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้น เพื่อให้มือใหม่สามารถเริ่มต้นลงทุนด้วยความมั่นใจและไปถึงเป้าหมายตามที่วางเอาไว้ ควรเริ่มด้วยแผนการลงทุน 5 ขั้นตอน ดังนี้

 

5 ขั้นตอน สร้างแผนการลงทุนกองทุนรวม ฉบับมือใหม่

1. กำหนดเป้าหมายการลงทุน
 

การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จได้ในขั้นแรกนั้นต้องมีการกำหนดเป้าหมาย เพราะหากขาดเป้าหมายอาจสร้างความสูญเสียในระหว่างทาง ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนต้องกำหนดเป้าหมายการลงทุนให้ชัดเจนก่อนว่าจะลงทุนไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อการเกษียณ เพื่อการศึกษาของลูก เพื่อผ่อนรถ เพื่อซื้อบ้าน เพื่อแต่งงาน เป็นต้น อีกทั้ง ควรระบุรายละเอียดด้วยว่าเป้าหมายดังกล่าวมีมูลค่าเท่าไร ใช้ระยะเวลากี่ปีในการเก็บเงิน

 

เช่น มีเป้าหมายจะเกษียณตอนอายุ 60 ปี ต้องการใช้เงินเดือนละ 20,000 บาท ในอีก 15 ปีข้างหน้า หรืออยากเก็บเงินแต่งงานให้ได้ 300,000 บาท ภายในเวลา 3 ปี เป็นต้น เมื่อเป้าหมายการลงทุนชัดเจน จากนั้นต้องคำนวณเม็ดเงินลงทุนที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายทางการเงิน โดยปัจจุบันมีโปรแกรมคำนวณเป้าหมายทางการเงินให้ใช้บริการฟรี เช่น โปรแกรมคำนวณของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คลิกที่นี่

 

2. ประเมินความเสี่ยง
 

เมื่อได้เป้าหมายการลงทุนแล้วก็ต้องจัดสัดส่วนการลงทุน เนื่องจากกองทุนรวมมีหลากหลายประเภท แต่ก่อนจะเลือกว่าจะลงทุนกองทุนรวมประเภทไหนนั้นก็ต้องเข้าใจระดับความสามารถในการยอมรับเสี่ยงของตัวเองก่อนว่าอยู่ในระดับใด (ยอมรับความเสี่ยงได้ต่ำ ปานกลาง และสูง) ด้วยการทำแบบประเมินความเสี่ยง (Suitability Test) เพราะก่อนลงทุน บลจ. แต่ละแห่งจะให้นักลงทุนทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนเปิดบัญชีกองทุนทุกครั้ง หรือเริ่มทำแบบประเมินความเสี่ยงเบื้องต้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ที่ คลิกที่นี่

 

หากประเมินความเสี่ยงเรียบร้อยแล้วก็จะได้สัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท (สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ปานกลาง และสูง) รวมถึงผลตอบแทนคาดการณ์ของพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ซึ่งสามารถนำผลตอบแทนคาดการณ์ไปกรอกในโปรแกรมคำนวณเป้าหมายทางการเงิน (กำหนดเป้าหมายการลงทุน) ทำให้ทราบว่าจะต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางไว้

3. จัดพอร์ตลงทุน
 

การคัดเลือกกองทุนรวมเข้าพอร์ตสามารถทำได้หลายวิธี เริ่มจากคัดเลือกด้วยตัวเอง ซึ่งต้องอาศัยเวลา และประสบการณ์ สำหรับมือใหม่อาจเริ่มต้นจากการขอคำปรึกษาผู้แนะนำการลงทุน บลจ.ที่เปิดบัญชีซื้อขาย ว่ามีกองทุนรวมที่เหมาะสมอะไรบ้าง ที่สำคัญสามารถตัดสินใจร่วมจัดพอร์ตลงทุนพร้อมกับผู้แนะนำการลงทุนได้ด้วย

 

นอกจากนี้ อาจเลือกใช้วิธีที่ บลจ. หรือตัวแทนจำหน่ายกองทุนรวม (ธนาคาร) หรือ บลน. ได้คัดเลือกกองทุนรวมแบบสำเร็จรูปจากผู้เชี่ยวชาญและคอยดูแลคัดสรรกองทุน รวมถึงปรับพอร์ตลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้ความเสี่ยงการลงทุนคงเดิม (หรือลดลง) โดยนักลงทุนมีหน้าที่เพียงเลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้ เช่น หากรับความเสี่ยงได้น้อยก็เลือกโมเดลที่มีสัดส่วนตราสารหนี้มาก แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้สูงก็เลือกโมเดลที่มีสัดส่วนหุ้นมาก

 

4. เริ่มลงทุน
 

เมื่อตัดสินใจลงทุนแล้ว สามารถเลือกลงทุนด้วยรูปแบบเป็นเงินก้อน หรือทยอยลงทุนแบบสม่ำเสมอเป็นรายเดือน (DCA) สำหรับนักลงทุนมือใหม่อาจเริ่มต้นด้วยวิธีการลงทุนสม่ำเสมอแบบ DCA เพื่อช่วยลดความผิดพลาดจากการจับจังหวะการลงทุน และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี เพราะมีโอกาสได้ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยที่ต่ำกว่าในระยะยาว และทำให้ได้จำนวนหน่วยที่มากขึ้น แถมยังเป็นการสร้างวินัยในการลงทุนอีกด้วย

 

5. ทบทวนแผนการลงทุน
 

เมื่อลงทุนไปแล้ว การสำรวจพอร์ตลงทุนเป็นสิ่งสำคัญและควรทำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ว่าผลตอบแทนเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้หรือไม่ และต้องปรับพอร์ตลงทุนหรือไม่ โดยเฉพาะหากจัดพอร์ตด้วยตัวเอง สัดส่วนการลงทุนอาจเปลี่ยนไปจากราคากองทุนรวมที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนเปลี่ยนแปลงด้วย และความเสี่ยงของพอร์ตจะไม่เท่าเดิม จึงต้องมีการปรับสัดส่วนให้พอร์ตคงเดิมเหมือนครั้งแรกที่วางแผนไว้ แต่หากลงทุนกองทุนรวมด้วยวิธีเลือกโมเดลสำเร็จรูป ก็จะมีผู้จัดการกองทุนคอยดูแลและปรับสัดส่วนการลงทุนและติดตามสถานการณ์การลงทุนให้ตลอดเวลา แต่ก็ต้องติดตามและเข้าไปสำรวจพอร์ตตัวเองด้วยว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่

 

ลองถามตัวเองว่า หากต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อลดความเสี่ยง ขณะเดียวกันใช้เงินลงทุนไม่มาก รวมถึงมีประสบการณ์ ความชำนาญในการลงทุนน้อย ไม่มีเวลาศึกษาค้นหาและติดตามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนอย่างไร “กองทุนรวม” เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่ที่เริ่มลงทุน

 

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน

 

โดย  :  ปรารถนา จันทนสกุลวงศ์ นักวางแผนการเงิน CFP® สมาคมนักวางแผนการเงินไทย

 

ที่มา: www.setinvestnow.com, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย