น้ำมันดิบ WTI ปิดร่วง 2.81 ดอลลาร์ วิตกโรงกลั่นสหรัฐเร่งเพิ่มผลิต

19 พ.ค. 2565 | 06:51 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ค. 2565 | 14:02 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (18 พ.ค.) หลังมีรายงานว่าโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐ เร่งเพิ่มการผลิตเพื่อรับมือกับสต็อกที่ลดลงอย่างมาก ตลาดน้ำมันยังปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ทรุดหนักจากวิกฤตเงินเฟ้อ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.81 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 109.59  ดอลลาร์/บาร์เรล
         

  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.82 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 109.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

         

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังมีรายงานว่า โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐต่างก็เร่งเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อรับมือกับสต็อกเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างมาก โดยขณะนี้ศักยภาพการกลั่นในเขตอีสต์โคสต์และกัลฟ์โคสต์อยู่เหนือระดับ 95% ซึ่งบ่งชี้ว่าบรรดาโรงกลั่นได้ดำเนินการผลิตใกล้ถึงขีดจำกัดสูงสุด

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล
         

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
         

นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานต่อเวเนซุเอลา เพื่อเปิดทางไปสู่การเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่สหรัฐหนุนหลัง
         

การผ่อนคลายดังกล่าวครอบคลุมถึงการอนุญาตให้บริษัทเชฟรอน คอร์ป สามารถเจรจาโดยตรงกับบริษัท PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา ทั้งนี้ เวเนซุเอลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประสบปัญหาการส่งออกน้ำมันลดลงต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจาก PDVSA ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐคว่ำบาตร