ทองคำนิวยอร์กปิดร่วง 15.4 ดอลล์  บอนด์ยีลด์พุ่ง-ดอลล์แข็งค่าฉุดตลาด

28 เม.ย. 2565 | 07:08 น.
อัปเดตล่าสุด :28 เม.ย. 2565 | 14:08 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนในวันพุธ (27 เม.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์กดดันตลาด ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการที่เฟด มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ประชุมเดือนหน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 15.4 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 1,888.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ. 2565
         

  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 8.5 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 23.505 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 910.4 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 16.60 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 2,195.10 ดอลลาร์/ออนซ์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 2.795% ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.63% แตะที่ 102.9540 เมื่อคืนนี้
         

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

สัญญาทองคำ ยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าเฟดอาจจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค.ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543
         

นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพ.ค. โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ