หุ้นไทยวันนี้ผันผวนสูง คาดดัชนีอ่อนตัว 1685-1705 จุด วิตกยูเครนตึงเครียด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ประเมิน ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ ( 24 ก.พ.65) มีโอกาสผันผวนสูงและอ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค จากแรงกดดันเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างยูเครน และ รัสเซีย หลังล่าสุดยูเครนได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่งผลให้นักลงทุนเน้น ไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่า

นอกจากนี้ยังต้องติดตามความผันผวนของหุ้นในกลุ่มที่ประกาศเข้าไปลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดคริปโท โดยเฉพาะ JTS ที่มีขนาดใหญ่วานนี้ราคาปรับตัวลงติดฟลอร์ และมีผลต่อดัชนีให้ปรับลดลงถึง 5 จุด
            

พร้อมให้แนวรับแรกที่ 1,685-1,686 จุด แนวรับถัดมาคือ 1,680 จุด และ 1,670-1,673 จุด ขณะที่แนวต้านคือ 1,700-1,705 จุด     

ด้านบล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน)  คาดการณ์แนวโน้มหุ้นไทยวันนี้( 24 ก.พ.) ดัชนี SET แกว่งตัวในกรอบ 1,690 - 1,705 จุด ตามสถานการณ์ยูเครนที่ยังคงตึงเครียดโดยล่าสุดยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉิน และสหรัฐคาดว่ารัสเซียจะบุกโจมตี ยูเครนในไม่ช้านี้ ซึ่งเป็นลบต่อทิศทางการลงทุน 

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ทรง ตัวระดับสูงเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน ประกอบกับแรงซื้อหุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวจะช่วยพยุงดัชนีให้รีบาวด์ขึ้นได้ ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามตัวเลขส่งออก/นำเข้าของไทยเดือน ม.ค. ซึ่งจะเป็นดัชนีชี้วัดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะฟื้นตัวได้ตามที่ตลาดมีการคาดการณ์กันไว้หรือไม่

กลยุทธ์การลงทุน :   เลือกหุ้นรายตัวประกอบด้วย

• KBANK BBL TTB KTB SCB และ BLA ได้ประโยชน์แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น 
• PTTEP TOP IVL SPRC และ BCP ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง 
• กลุ่มเดินเรือ PSL  และ TTA ได้ประโยชน์จากค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ดาวโจนส์ยังร่วงแรงหลัง โจ ไบเดน เตือนรัสเซียเตรียมโจมตียูเครนแบบ เต็มพิกัดในเร็วๆ นี้: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 465 จุด (-1.38%) ปิดที่ ระดับ 33,132 จุด หลังจาก ที่ ปธน. โจ ไบเดน ระบุว่าปัจจุบันยังไม่เห็น สัญญาณถอยของรัสเซียแม้จะถูกสหรัฐและชาติตะวันตกลุมคว่ำบาตร และเตือน ว่ารัสเซียเตรียมโจมตียูเครนแบบเต็มพิกัดในเร็วๆ นี้สอดคล้องกับสถานการณ์ใน ยูเครนที่รัสเซียเริ่มอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตรัสเซียในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนแล้ว 

(+/-) วันนี้ติดตามรายงานตัวเลขส่งออก/นำเข้าของไทยเดือน ม.ค. : ซึ่งจะเป็นดัชนีชี้วัดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะฟื้นตัวได้ตามที่ตลาดมีการคาดการณ์กันไว้ หรือไม่ เบื้องต้น Consensus คาดมูลค่าการส่งออกของไทยจะขยายตัว 19.6%yoy ชะลอตัวลงหากเทียบกับเดือน ธ.ค.ที่ขยายตัว 24.2%yoy อย่างไรก็ ตามถือเป็นยอดการส่งออกที่สูงมากเพราะ Consensus คาดยอดส่งออกรวม ของไทยในปีนี้จะขยายตัวเพียง 4.9%yoy เท่านั้น

(+/-) พรุ่งนี้ติดตามตัวเลข PCE Price Index จับสัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐ: สหรัฐจะประกาศตัวเลขดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภค (PCE Price Index) เดือน ม.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟด ดังนั้นหาก ตัวเลขดังกล่าวยังพุ่งสูงและมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์จะเป็นปัจจัยกดดันตลาด เบื้องต้น Consensus คาด ไว้ที่ 5.9% ใกล้เคียงกับเดือน ธ.ค.ที่ 5.8%