"ปีเสือของมังกร"หุ้นจีนคืนบัลลังก์ ผลงานย้อนหลังกองทุนบวกสูงสุด 20%

07 ก.พ. 2565 | 16:19 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2565 | 23:19 น.

หุ้นจีนปีนี้น่าสนใจกว่าสหรัฐ จากเศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 6.5% สภาพคล่องเริ่มไหลเข้าตลาดจีน ราคาหุ้นจีนปรับลดลงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ จากที่ตลาดเทรดกันอยู่ที่ P/E ประมาณ 14 เท่า

เศรษฐกิจจีนในปี 2564 ขยายตัวได้ที่ 8.1% สูงกว่าเป้าหมายที่ทางการตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 6% โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในปี 2565 จะขยายตัวได้ที่ 5% (กรอบคาดการณ์ 4.8-5.4%) (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

 

จีนตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนของมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัลหลักในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขึ้นเป็น 10% ภายในปี 2568 จากเดิม 7.8% ในปี 2563(ซินหัว)

 

ธนาคารกลางของจีนลดดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปี ถึง 2 ครั้ง ในรอบเพียง 2 เดือน และได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีครั้งแรกตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 รวมถึงปรับลดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 1 ปี (Medium-term Lending Facility - MLF)  เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563 เช่นกัน

 

จีนจัดโอลิมปิกฤดูหนาวในช่วงวันที่ 4 - 20 ก.พ.นี้  ในฐานะเมืองแรกที่เป็นทั้งเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนและฤดูหนาวและเป็นการจัดที่ไม่เหมือนใครภายใต้ระบบปิดแบบบับเบิ้ลที่มีความยาวกว่า 200 กิโลเมตรตลอดการแข่งขันเพื่อจำกัดการติดเชื้อ

นโยบาย Zero Covid อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน ซึ่งต้องติดตามว่า จีนจะมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือไม่

 

ว่ากันว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีนมีโอกาสขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกหลังจากจ่อติดพญาอินทรีสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่กลับกันในปีที่แล้ว การลงทุนในตลาดหุ้นจีนได้รับผลกระทบ จากมาตรการควบคุมการผูกขาดของบริษัเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ทำให้นักลงทุนและหุ้นหัวทิ่มไปตามๆกัน บวกกับภาคอสังหาฯที่ประเดิมด้วยยักษ์ล้มอย่าง China Evergrand Group แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจีนจะยังเติบโตได้ดีก็ตาม

 

ปีที่แล้วจึงถือ เป็นปียอดแย่ของตลาดหุ้นจีน นักลงทุนผวา ผลงานกองทุนติดลบ แต่ทำไมหลายค่ายยังมีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นจีนในปี 2022 หรืออาจเป็นเพราะผลงานย้อนหลังที่ยังดีอยู่สำหรับการลงทุนระยะยาว 3-5 ปี

\"ปีเสือของมังกร\"หุ้นจีนคืนบัลลังก์ ผลงานย้อนหลังกองทุนบวกสูงสุด 20%

 

สำหรับ 5 อันดับกอง China Equity ที่มีผลตอบแทนสูงสุดย้อนหลัง 3 ปี พบว่า 

  1. กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน(B-CHINE-EQ) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีที่ −13.61% ผลตอบแทนย้อนหลัง3 ปี 20.81%  
  2. กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เกรธเธอร์ ไชน่า(UOBSGCX  ผลตอบแทนย้อนหลัง 1ปี 0.57% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 16.44% และผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี 10.41%
  3. กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index (TMBCHEQ) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี −8.81% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 13.41% และผลตอบแทนย้อนหลัง 5ปี 8.52%
  4. กองทุนเปิด แอสเซทพลัส อีโวลูชั่น ไชน่า อิควิตี้(ASP-EVOCHINA) ผลตอบแทนย้อนหลัง 1ปี −33.13% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 13.00% 
  5. กองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควิตี้เฮดจ์ปันผล (KF-HCHINAD        ผลตอบแทนย้อนหลัง 1ปี −7.24 ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 12.87  ผลตอบแทนย้อนหลัง 5ปี 12.03

 

  • ระยะยาวดี แล้วปีนี้หุ้นจีนจะเป็นอย่างไร มีโอกาสหรือไม่ว่าจะเป็น"ปีเสือของมังกร"

นาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย บอกว่า หุ้นจีนปีนี้น่าสนใจกว่าหุ้นสหรัฐ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลดีต่อหุ้นจีนหลักๆ จะมี 3 ด้านด้วยกันประกอบด้วย

  • เศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และปัจจัยหลักของการลงทุนในประเทศจีนคือเรื่องเศรษฐกิจ  โดยจีดีพีของจีนในปีนี้ถึงแม้จะไม่ได้ปรับตัวเยอะแต่ก็ไม่ได้เป็นวิกฤต ซึ่งไอเอ็มเอฟ และเวิลด์แบงก์คาดว่าจะเติบโตประมาณ 6.5% เทียบกับสหรัฐที่โตประมาณ 3% แล้วทำให้ตลาดจีนมีความน่าสนใจมากว่า นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังมีมาตรการเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติมเพื่อให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ในระดับที่น่าพอใจ

นาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ.กสิกรไทย

 

อย่างไรก็ตามการลงทุนในตลาดหุ้นจีนปีที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจจีนจะมีการเติบโตได้ดี แต่ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลจีนออกมาตรควบคุมการผูกขาดทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวล ซึ่งในปีนี้ความเสี่ยงจากมาตรการนี้น่าจะลดลงหลังจากที่ผู้ประกอบการเริ่มมีการปรับตัวและหาแนวทางในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับนโยบายของภาครัฐได้แล้ว

 

"การเติบของเศรษฐกิจจีนมาจากภาคการผลิตใหญ่สุด 50-60% เป็นพระเอกจากการฟื้นตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว การส่งออกโตอย่างแข็งแกร่งแม้จะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิดบ้างแต่โดยรวมแล้วยังเติบโตได้ดี"นายนาวินกล่าว 

 

ส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีสัดส่วนของการเติบโต 20-25% ก็มีโครงการใหม่และกระจายการลงทุนอยู่ ขณะที่ภาคอสังหาฯที่มีผลกระทบขณะนี้น่าจะเริ่มคลี่คลายลงและภาครัฐน่าจะมีนโยบายออกมาเพื่อลดผลกระทบบ้างเหมือนกัน แต่เชื่อว่าทั้ง 2ส่วนคือการผลิตและโครงสร้างพื้นฐานน่าจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้ได้"

 

  • สภาพคล่องไหลเข้าตลาดจีน จากตัวเลขล่าสุดที่มีตอนนี้ก็เริ่มเห็นสภาพคล่องกลับเข้าตลาดจีนแล้วถึงจะไม่มากนัก โดยถ้ามองจากสภาพคล่องล้นโลกแล้วเอาสหรัฐเป็นตัวอย่างจะเห็นว่าในช่วงที่เกมยังอยู่ที่สหรัฐฯราคาสินทรัพย์ทุกอย่างปรับตัวสูงขึ้นทั้ง หุ้น คริปโตฯ รถยนต์มือสอง แต่เกมนี้จะกลับมาเริ่มที่จีนเพราะจีนเริ่มลดดอกเบี้ยไปแล้ว 2 ครั้ง และลดสัดส่วนการถือครองสินทรัพย์ของธนาคารเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบ ซึ่งถ้ามองเกมแบบนี้ก็เป็นไปได้เช่นกันว่าจะมีโฟลว์เข้ามาเพื่อหาผลตอบแทนเพิ่ม เพราะมักจะมองกันว่าราคาสินทรัพย์จะปรับตัวขึ้นได้ดีในตลาดที่มีสภาพคล่องสูง

 

  • ราคาหุ้นจีนปรับลดลงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ตลาดจีนเทรดกันอยู่ที่ P/E ประมาณ 14 เท่า ซึ่งกลับมาอยู่ในค่าเฉลี่ยระยะยาว ขณะที่สหรัฐ P/E อยู่ที่ 18-19 เท่า หุ้นจีนจะน่าสนใจมากว่า ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจีนปีนี้คงโตอย่างน้อย 13% ในขณะที่P/Eเท่าเดิมหุ้นจีนในปีนี้น่าจะโตได้ไม่น้อยกว่ากำไร

 

  • แล้วจะลงทุนต่อดีไหม นักลงทุนควรทำอย่างไร

นาวินบอกว่า เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในหุ้นจีน แม้จะยังมีความผันผวนเนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจทิศทางการดำเนินนโยบายของภาครัฐ อย่างไรก็ดี การดำเนินนโยบายที่ผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งระดับราคาหุ้นที่ค่อนข้างต่ำจากราคาที่ลดลงมามากในปีที่แล้ว ประกอบกับพื้นฐานบริษัทที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้การลงทุนระยะยาวในจีนยังน่าสนใจเหนือประเทศอื่น

 

"นักลงทุนที่ต้องการเพิ่มน้ำหนักในพอร์ต สามารถทยอยเข้าสะสมเพิ่มเติมได้ เพื่อเฉลี่ยต้นทุน หรือสะสมสำหรับการลงทุนระยะยาวได้ ส่วนนักลงทุนที่มีน้ำหนักหุ้นจีนในพอร์ตการลงทุนมากแล้ว ก็สามารถถือต่อเพื่อรอโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้"นายนาวินกล่าว 

 

สรุปแล้ว หุ้นจีนน่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจก็สามารถไตร่ตรองดูก่อนได้ เพราะถือเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ถ้าใครรับความเสี่ยงได้เชื่อว่า ระยะยาวผลตอบแทนตลาดหุ้นจีนน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าดูจากการเติบโตเศรษฐกิจ