JTS ลุยลงทุนเครื่องขุดบิทคอยน์เพิ่ม เมินที่ปรึกษาการเงินค้าน

07 ก.พ. 2565 | 13:07 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.พ. 2565 | 20:08 น.

JTS ยันเดินหน้าลงทุนเครื่องขุดบิทคอยน์เพิ่ม แม้ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ( IFA) แนะผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติ เหตุมีความเสี่ยงผันผวนสูง อาจควบคุมไม่ได้ กระทบกระแสเงินสดบริษัทฯ

นายดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการ  บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น  ( JTS) แจ้งว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ ในวาระเกี่ยวกับรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเกี่ยวกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ และรายการที่เกี่ยวโยงกันในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) และการออกและเสนอขายหุ้นกู้และการจัดหาหลักประกัน ในประเด็นที่สําคัญ ดังนี้
 

1.บริษัทฯ ได้รับทราบและพิจารณาความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ มีข้อสรุปว่าผู้ถือหุ้นควรลงมติ “ไม่อนุมัติ” รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์และรายการที่เกี่ยวโยงกัน

 

ในวาระที่ 2.1 การจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวน 1,800 เครื่องจากบริษัท พรีเมียม แอสเซท จํากัด ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ และรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯและในวาระที่ 2.2 การจัดซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์จํานวนไม่เกิน 4,500 เครื่อง พร้อมระบบไฟฟ้าและระบบที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ

 

เนื่องจากโครงการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์มีความเสี่ยง และผลกระทบของความผันผวนของตัวแปรต่างๆ ที่บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ และมีนัยสําคัญต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯ ดังนั้นความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวจึงมีนัยสําคัญ และมีความเป็นไปได้ที่ความเสี่ยง และผลกระทบตามที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระสรุปไว้อาจเกิดขึ้นได้ ผู้ถือหุ้นทุกรายจึงควรศึกษารายละเอียดในรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ
 

ทั้งนี้ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 12/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 นั้น ได้มีการพิจารณาข้อมูลเชิงสถิติ และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาบิทคอยน์ประกอบแล้ว พบข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าราคาบิทคอยน์มีโอกาสจะปรับตัวสูงขึ้นได้เร็วกว่าการเติบโตของจํานวนแฮชเรตรวมของเครือข่ายบิทคอยน์ เนื่องมาจากเหตุผลดังต่อไปนี้

 

การเติบโตของจํานวนแฮชเรตรวมของเครือข่ายบิทคอยน์ (Bitcoin Total Hash Rate) ตั้งแต่ต้นปี 2018 เป็นต้นมา มีลักษณะเป็นไปแบบเชิงเส้น (Linear Growth) โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นของแฮชเรตในแต่ละปี ที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ อันเป็นผลมาจาก 

 

  • (1) พัฒนาการของเทคโนโลยีในการผลิตชิปประมวลผลให้มีขนาดเล็กลงและมีความจุเพิ่มขึ้นเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งปัจจุบันเครื่องขุดบิตคอยน์ก็ใช้เทคโนโลยีระดับ 5 นาโนเมตรอยู่แล้ว
  • (2) ตลาดเครื่องขุดบิทคอยน์เป็นของผู้ผลิตน้อยราย เนื่องจากการออกแบบเครื่องขุดให้มีจํานวนแฮชเรตสูงแต่ใช้พลังงานตํ่านั้นต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง ทําให้จํานวนเครื่องขุดบิทคอยน์ใหม่ที่ผลิตและเพิ่มเข้ามาในตลาดของแต่ละปี มีจํานวนจํากัด
  • (3) การที่ตลาดอุปทานเป็นของผู้เล่นน้อยราย เมื่อรวมกับสถานการณ์การขาดแคลนชิพประมวลผลที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทําให้กําลังการผลิตของเครื่องขุดบิทคอยน์รวมไม่เพียงพอกับความต้องการในตลาด ผู้ซื้อที่ต้องการสั่งเครื่องขุดในปริมาณมากต้องสั่งจองเครื่อง และชําระเงินล่วงหน้าก่อนการส่งของเป็นระยะเวลานาน ทําให้มีผู้ซื้อจํานวนไม่มากที่มีความสามารถที่จะทําเช่นนี้ได้
     
  • (4) การที่ตลาดเป็นของผู้ผลิต ทําให้บ่อยครั้งที่ผู้ผลิตเลือกที่จะปรับเพิ่มราคาขายของเครื่องขุดบิทคอยน์รุ่นเดิม ตามราคาของบิทคอยน์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยไม่สนใจต้นทุนในการผลิตที่แท้จริง ทําให้แรงจูงใจของผู้ซื้อที่จะลงทุนซื้อเครื่องขุดใหม่ เมื่อราคาบิทคอยน์ปรับตัวสูงขึ้นนั้น มีเพิ่มขึ้นไม่มากอย่างที่ควร

 

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ในอนาคตอันใกล้จึงเป็นไปได้ยากที่จะมีการเติบโตของจํานวนแฮชเรตรวมของเครือข่ายบิทคอยน์อย่างก้าวกระโดดแต่เมื่อพิจารณาในมุมของราคาของบิทคอยน์ที่ถึงแม้จะมีความผันผวนของราคาสูง แต่ยังมีอัตราการเติบโตของราคาในช่วง 2-3 ปี หลังเป็นไปแบบทวีคูณ (Exponential Growth) อันเนื่องมาจากตลาดเริ่มมองว่าบิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสมกว่าเงินตรา (Fiat Currency) ในการรักษามูลค่า และป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้ออันเป็นผลมาจากการอัดฉีดเงินเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก (Debasement)


โดยปัจจุบันบิทคอยน์มี Market Cap อยู่ที่ 790.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่าซื้อขายต่อวันอยู่ที่ประมาณ 24.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนั้นยังมีนักลงทุนและกองทุนระดับโลกที่ให้มุมมองเชิงบวก และเข้าลงทุนในบิทคอยน์หลายราย เช่น กองทุน Grayscale Bitcoin Trust เป็นกองทุนคริปโตที่มีการซื้อขายกันที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมี Grayscale Investments, LLC เป็นผู้จัดการสินทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบันสามารถมีส่วนร่วมในการลงทุนกับบิทคอยน์ โดยปัจจุบันมีมูลค่าสินทรัพย์ที่บริหารอยู่ประมาณ 26.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

2.คณะกรรมการตรวจสอบ ได้รับทราบความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ที่ได้สรุปความเห็นว่าผู้ถือหุ้นควรลงมติ “ไม่อนุมัติ” รายการก็ตาม แต่เนื่องจากทางบริษัท และ/หรือ JasTel ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนี้เป็นอย่างดีมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และพบว่าข้อมูลเชิงสถิติและข้อเท็จจริงในส่วนของความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาบิทคอยน์นั้น พบข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าราคาบิทคอยน์มีโอกาสจะปรับตัวสูงขึ้นได้เร็วกว่าการเติบโตของจํานวนแฮชเรตรวมของเครือข่ายบิทคอยน์ และเห็นว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนในระยะยาว


อีกทั้งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงสินทรัพย์ดิจิทัลมาดําเนินการในการกํากับดูแลและกําหนดนโยบายในการบริหารจัดการบิทคอยน์ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อดีของการทํารายการซื้อเครื่องขุดบิทคอยน์ ว่าเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ให้กับ บริษัท และ/หรือ JasTel ตามแผนการขยายธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ของ JasTel ให้เติบโตยิ่งขึ้น โดยการเข้าลงทุนในครั้งนี้จะทําให้บริษัทฯ และ JasTel กลายเป็นผู้ประกอบธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์รายใหญ่ในประเทศไทย การเข้าลงทุนจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้นและอาจช่วยให้กลุ่มบริษัทฯ ได้รับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต

 

รวมถึงจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ต่อยอดธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระในส่วนนี้สอดคล้องกับความเห็นของคณะกรรมการบริษัท และแผนธุรกิจของ JasTelจึงเห็นควรให้นําเสนอให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้พิจารณาอนุมัติรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์และรายการที่เกี่ยวโยงกันนี้ด้วยความระมัดระวัง และศึกษาข้อมูลประกอบก่อนการพิจารณาอนุมัติรายการ


อนึ่งการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น JTS เช้าวันนี้ ( 7 ก.พ.65)  ราคาหุ้น JTS ปรับตัวลงไปต่ำสุด 208 บาทจากราคาเปิด 210 บาท ก่อนจะปิดตลาดภาคเช้า ยืนที่ 216 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +1.41% จากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา