ทองคำนิวยอร์กปิดบวก 8.3 ดอลลาร์ หลังบอนด์ยีลด์ร่วง

31 ธ.ค. 2564 | 07:03 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ธ.ค. 2564 | 14:03 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวานนี้ (30 ธ.ค.) หลังได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยปรับตัวในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากตลาดยังคงถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า

 สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8.3 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,814.1 ดอลลาร์/ออนซ์  

     

  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 20.2 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 23.06 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 964.6 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,983.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.529% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
         

อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากคณะกรรมการเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดจะดำเนินนโยบายเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงการเร่งปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรายเดือน และในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ครั้งล่าสุดนั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2565
 

นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นปัจจัยสกัดแรงบวกของสัญญาทองคำในระหว่างวัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 198,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 205,000 ราย  
         

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลงสู่ระดับ 199,250 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2512