ดาวโจนส์ปิดบวก 216 จุด ในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีดาวโจนส์บวก 4%

11 ธ.ค. 2564 | 06:50 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ธ.ค. 2564 | 13:57 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 216.30 จุดเมื่อคืนนี้(10 ธ.ค.) ตลาดปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่เป็นไปตามคาดในเดือนพ.ย. โดยในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 4% นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,970.99 จุด เพิ่มขึ้น 216.30 จุด หรือ +0.60%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,712.02 จุด เพิ่มขึ้น 44.57 จุด หรือ +0.95% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,630.60 จุด เพิ่มขึ้น 113.23 จุด หรือ +0.73%
         

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 4%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.8% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 3.6%

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 6.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2525 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 6.7%
          

ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และพุ่งขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2534 สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์เช่นกัน

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้นมากที่สุด 


การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวังก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์หน้า โดยบรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้
          

 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนซึ่งบ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 70.4 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 67.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 67.1