ก.ล.ต.เตือน "สมเด็จคอยน์" ระวังซื้อขายพระเครื่องดิจิทัลรุ่นแรกของโลก

17 พ.ย. 2564 | 16:39 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ย. 2564 | 23:50 น.
1.4 k

ก.ล.ต.แจง สมเด็จคอยน์ หรือ Somdejcoin ไม่เข้าข่ายต้องขออนุญาตจากก.ล.ต. เผยอยู่ระหว่างขอข้อมูลเพิ่มเติมจากวัดป่ามหาญาณ เหตุต้องได้รับอนุญาตจากสำนักพุทธ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องง เตือนผู้สนใจใช้ความระวังในการตัดสินใจซื้อขาย

หลังจากมีกระแสข่าวสร้างความฮือฮาให้กับวงการพระเครื่อง ด้วยการจัดทำ Somdejcoin หรือ สมเด็จคอยน์ สกุลเงินพระเครื่องรุ่นแรกและเหรียญแรกของโลก ที่สร้างขึ้นจากบล็อกเชน เพื่อแจกให้กับคนไทยทุกคน เพราะต้องการให้คนไทยเข้าถึงเหรีญสมเด็จดิจิทัลเหรียญแรกของโลกที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมของชาวไทย 

 

ทำให้เกิดคำถามว่า เหรียญดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลอย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แล้วหรือไม่  ซึ่งวันนี้ก.ล.ต.มีคำตอบดังกล่าว

  • 1.ผู้พัฒนาเหรียญยื่นเรื่องมาที่ก.ล.ต.แล้วคืบหน้าอย่างไร
  • คำตอบ 

ผู้ประสานงานวัดป่ามหาญาณ มีหนังสือถึงก.ล.ต. 2 ฉบับเพื่อหารือว่า เหรียญดังกล่าวเข้าข่ายเป็นเหรียญสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ประเภท ซึ่งห้ามไม่ให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนำมาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ตามข้อ 39/1 ของประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ กธ. 19/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือไม่ 

 

อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ได้มีหนังสือขอข้อมูลเพิ่มเติมจากวัดป่ามหาญาณแล้ว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้ความเห็นต่อไป ในประเด็นเกี่ยวกับ

  1. การใช้ชื่อสมเด็จมาเป็นชื่อเหรียญ รวมทั้งมีแผนจะนำเหรียญดังกล่าวไปซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งโดยทั่วไปมีลักษณะเก็งกำไรนั้น การดำเนินการดังกล่าวมีความเหมาะสมที่อาจกระทบต่อพระพุทธศาสนา จึงให้ผู้ออกหารือและนำหนังสือความเห็นจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณาว่า เหรียญดังกล่าว ไม่ขัดต่อกฎหมาย
  2. ข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญเพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น เช่น กลไกในการใช้สิทธิประโยชน์ของเหรียญมีลักษณะการดำเนินการอย่างไร อัตราในการนำเหรียญเพื่อใช้ในการแลกสิทธิประโยชน์เป็นอย่างไร รวมทั้งแผนที่จะเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในอนาคต จะมีหรือไม่ และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะดำเนินการอย่างไร 
  3. การเปิดให้มีการซื้อขายเหรียญโดยหักภาษีในอัตรา 9% ในทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนซื้อขาย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนที่เท่ากันคือ 3% สำหรับนำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือสังคม  3% สำหรับการไปเสริมสภาพคล่องในระบบ และอีก 3% สำหรับการนำไปเพิ่มเหรียญให้แก่ผู้ถือเหรียญ

 

การหักภาษีดังกล่าว เพื่อนำไปทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือสังคม นำไปเสริมสภาพคล่องในระบบ และนำไปเพิ่มเหรียญให้แก่ผู้ถือเหรียญ อันอาจมีลักษณะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้มีการถือครองเหรียญเพื่อการลงทุนมากกว่าการทำบุญ จึงมีข้อสังเกตว่า มีความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเหรียญในการทำนุบำรุงศาสนาและช่วยเหลือสังคม รวมทั้งถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวัดหรือไม่

 

ทั้งนี้ เหรียญ 4 ประเภทตามประกาศข้างต้น ได้แก่ 

  • เหรียญที่ออกโดยไม่มีวัตถุประสงค์หรือสาระชัดเจนหรือไม่มีสิ่งใดรองรับโดยมีราคาขึ้นอยู่กับกระแสในโลกโซเชียล (Meme Token) 
  • เหรียญที่ออกโดยมีลักษณะเกิดจากกระแสความชื่นชอบส่วนบุคคล (Fan Token) 
  • โทเคนดิจิทัลที่เกิดจากการนำเทคโนโลยีมาใช้แสดงความเป็นเจ้าของหรือให้สิทธิในสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือที่เฉพาะเจาะจง โดยไม่สามารถใช้โทเคนดิจิทัลประเภทและชนิดเดียวกันและจำนวนเท่ากันแทนกันได้ (Non-Fungible Token) หรือ
  • โทเคนดิจิทัลที่ออกโดยผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเองหรือบุคคลซึ่งมีความเกี่ยวข้องเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้ประโยชน์สำหรับธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนบล็อกเชน 
  • 2.มีการแจกคนละ 1 เหรียญ และ มีเทรดด้วย ทำได้หรือไม่
  • คำตอบ 

การจัดสรรเหรียญให้แก่ผู้ถือด้วยการแจกสามารถทำได้ (เป็นการให้ฟรี ไม่มีการเสนอขาย)  ในส่วนของการเทรดปัจจุบัน ยังไม่มีการเทรดกับผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย 

 

อย่างไรก็ดี หากผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องการนำเหรียญดังกล่าวเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จะต้องพิจารณาว่า เป็นไปตามข้อกำหนด listing rule ของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และต้องเป็นเหรียญที่ถูกกฎหมายด้วย  ซึ่ง listing rules ของแต่ละศูนย์จะกำหนดเอง เพราะพ.ร.ก สินทรัพย์ดิจิทัล ปี 2561 กำหนดแบบ principle rules 

  • 3. มีข้อควรระวัง หรือ ก.ล.ต. มีความเห็นอย่างไรกับเหรียญดังกล่าว
  • คำตอบ 

เนื่องจากจากข้อมูลในเบื้องต้นลักษณะของเหรียญไม่เข้าข่ายเป็นเหรียญที่ต้องได้รับอนุญาตให้เสนอขายจาก ก.ล.ต. และข้อมูลยังมีความไม่ชัดเจนในบางเรื่อง ดังนั้น จึงขอให้ผู้สนใจศึกษาข้อมูลและใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อขาย

ทั้งนี้ เนื่องจากเหรียญดังกล่าวใช้ชื่อสมเด็จและเป็นกิจกรรมของวัด จึงอาจมีความเกี่ยวข้องและต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ด้วยโดย ก.ล.ต.ได้แจ้งผู้พัฒนาไปแล้ว 


ดังน้ันจากข้อมูลเบื้องต้น ลักษณะของเหรียญไม่เข้าข่ายเป็นเหรียญที่ต้องได้รับอนุญาตให้เสนอขายจาก ก.ล.ต.

 

อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. อยู่ระหว่างขอข้อมูลเพิ่มเติมจากวัดป่ามหาญาณ เนื่องจากอาจมีความเกี่ยวข้องและต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ รวมทั้ง เพื่อประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. เช่น เป็นเหรียญที่ไม่เข้าข่าย 4 เหรียญซึ่งห้ามไม่ให้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนำมาให้บริการซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่