บี.กริม เพาเวอร์ กำไรไตรมาส 2/64 พุ่ง 56.5% เล็งจ่ายปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น

13 ส.ค. 2564 | 09:57 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ส.ค. 2564 | 16:56 น.

บี.กริม เพาเวอร์ กำไรไตรมาส 2/64 พุ่ง 56.5% เล็งจ่ายปันผล 0.15 บาทต่อหุ้น พร้อมเดินหน้า 7 ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กร

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด   (มหาชน)  หรือ BGRIM เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 2/64 ว่า มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1,022 ล้านบาท หากไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง กำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 1,011 ล้านบาท เติบโต 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 56.5% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ ขณะที่ EBITDA เพิ่มขึ้นสู่ 3,524 ล้านบาท เติบโต 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ มีปัจจัยสำคัญจากปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 47.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 831 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากหลายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์, ยางรถยนต์, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และกลุ่มก๊าซอุตสาหกรรม ควบคู่กับการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 21.2 เมกะวัตต์ ในช่วงไตรมาส 2/2564 หรือ 31.5 เมกะวัตต์ ในครึ่งปีแรก จากเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 40 เมกะวัตต์ในปีนี้
นอกจากนี้ กำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ยังเป็นผลจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชาเมื่อเดือนธันวาคม 2563 และการเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า บริษัท อมตะ บี. กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 1 จำกัด (ABPR1) และ บริษัท อมตะ บี. กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 2 จำกัด (ABPR2) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 รวมถึงประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่าย ที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 17.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติได้ปรับตัวลดลง 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย

อย่างไรก็ดี ล่าสุด บี.กริม เพาเวอร์ ได้ประกาศ 7 ยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately) เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมในรูปแบบของ Sustainable Utility Solution Provider ด้วยการผลิตพลังงานที่มีคุณภาพสูงและบริการแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปีนี้ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบ่อทอง วินด์ฟาร์ม 1&2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร มีกำหนดการ COD ในเดือนสิงหาคม 2564

ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 48 โครงการ โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเติบโตจาก 3,058 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2563 เป็นมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 และมุ่งสู่ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 ด้วยมีเป้าหมายรายได้ต่อปีกว่า 100,000 ล้านบาท
"บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.15 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2564 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 26 สิงหาคม 2564 และวันที่จ่ายปันผล 10 กันยายน 2564"