CKPower แข็งแกร่ง กำไรไตรมาส 2 โตพุ่ง 845%

11 ส.ค. 2564 | 14:28 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ส.ค. 2564 | 21:28 น.

CKPower โชว์กำไรไตรมาส 2 โตพุ่ง 845% จากช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 95 ล้านบาท คาดไตรมาส 3 ยังเติบโตต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในฤดูฝน รับรู้กำไรจากการถือหุ้นเพิ่มใน‘ไซยะบุรี พาวเวอร์’

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (CKP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่ม CKPower ไตรมาส 2/2564 มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 707.0 ล้านบาท เติบโตขึ้น 801.9 ล้านบาท หรือ 845.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขาดทุน 94.9 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,295.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 464.0 ล้านบาท หรือ 25.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,831.2 ล้านบาท

ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)

ขณะเดียวที่ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 CKPower มีกำไรสุทธิ 821.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 289.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่ขาดทุน 434.4 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมในช่วงครึ่งปีแรก 4,396.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 803.1 ล้านบาท หรือ 22.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,593.1 ล้านบาท

 

ผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 (NN2) ซึ่งในไตรมาส 2 มีรายได้ 956.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 563.5 ล้านบาท หรือ 143.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และครึ่งปีแรกปีนี้ มีรายได้ 1,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 946.4 ล้านบาท หรือ 123.1% จากปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากในปีนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีปริมาณน้ำสะสม ณ ต้นปี 2564 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี (XPCL) เพิ่มขึ้น 616.9 ล้านบาท หรือ 626.3% YoY ในไตรมาส 2/2564 และเพิ่มขึ้น 915.6 ล้านบาท หรือ 208.5% YoY ในช่วงครึ่งปีแรก โดยมีสาเหตุหลักมาจากปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าไซยะบุรีเฉลี่ยที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับ XPCL มีค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและการทยอยชำระคืนเงินต้น

 

นายธนวัฒน์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 บริษัทฯได้ออกหุ้นกู้จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดในไตรมาส 2 ปี 2564 ซื้อสินทรัพย์หรือลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ โดยได้รับการจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่อันดับ “A-” แนวโน้ม “คงที่” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และวันที่ 29 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ ได้ทำการชำระเงินค่าหุ้น XPCL ที่บริษัทฯซื้อเพิ่มร้อยละ 5 ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นใน XPCL ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นจาก 37.5% เป็น 42.5% ตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 โดยใช้วงเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 1,800 ล้านบาทในการชำระค่าหุ้นดังกล่าว

 

ทั้งนี้ในไตรมาส 3/2564 คาดว่า CKPower จะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง จากปริมาณการผลิตไฟฟ้าของ NN2 และ XPCL ที่คาดว่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 และปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี สามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และที่สำคัญ บริษัทฯ จะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ XPCL เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น 5% ในไตรมาส 3 นี้เป็นต้นไปอีกด้วย

 

“ขณะนี้ CKPower อยู่ระหว่างเตรียมการในการออกหุ้นกู้เพื่อทดแทนการเบิกวงเงินกู้ระยะสั้นที่ใช้ชำระค่าหุ้นส่วนที่มีการซื้อเพิ่มของ XPCL และคาดว่าจะออกเสนอขายหุ้นกู้ได้ในไตรมาส 4 นี้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมการจัดอันดับเครดิตของ XPCL ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้  เพื่อรองรับแผนการออกหุ้นกู้ในปี 2565”นายธนวัฒน์กล่าว