ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) นักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ และมองข้ามความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่กำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,208.51 จุด เพิ่มขึ้น 144.26 จุด หรือ +0.41% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,436.52 จุด เพิ่มขึ้น 7.42 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,835.76 จุด ลดลง 59.36 จุด หรือ -0.40%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.78%, ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.94% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.1%
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 943,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 845,000 ตำแหน่ง จากระดับ 938,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.4% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.7% หลังจากแตะระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ยอดขายในภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. และเจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.22 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก ลดลงจากระดับ 1.23 เดือนในเดือนพ.ค.
หุ้น 4 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง
นอกจากนี้ การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป พุ่งขึ้น 4.7% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาส 2 สูงเกินคาดเมื่อวันพฤหัสบดี และหุ้นคอร์ทีวา พุ่ง 8% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้สุทธิในปีนี้
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของผู้นำเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ เพื่อหารือด้านนโยบายการเงินและกำหนดกลยุทธ์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต