บลจ.กสิกรไทย คาดตลาดหุ้นจีนร่วงระยะสั้น แนะเป็นจังหวะเข้าซื้อ

01 ส.ค. 2564 | 09:48 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ส.ค. 2564 | 17:16 น.
650

บลจ.กสิกรไทย คาดตลาดหุ้นจีนปรับลงในระยะสั้น เชื่อจะปรับขึ้นมาได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ยัน ‘กองทุนหุ้นจีน’ ของบริษัททุกกอง ไม่ได้ลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา แนะนำผู้ลงทุนถือต่อ เพื่อรอโอกาสเติบโต

นายนาวิน อินทรสมบัติ  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย จำกัดเปิดเผยว่า  มาตรการรัฐบาลจีนที่เข้มงวดในการกำกับดูแลภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มีการผูกขาดเพื่อสร้างความเป็นธรรมในตลาด ซึ่งที่ผ่านมาได้ควบคุมกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี ทำให้ตลาดหุ้นจีนผันผวนไปช่วงเวลาหนึ่ง

นาวิน อินทรสมบัติ  รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ บลจ. กสิกรไทย จำกัด

ล่าสุดได้เข้ามาควบคุมกลุ่มโรงเรียนกวดวิชา (After-school Tutoring - AST) โดยเปลี่ยนให้เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีน A-shares และ H-shares ปรับตัวลงแรง แต่เมื่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ออกมาชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจและเรียกความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนกลับมา ทำให้ตลาดหุ้น A-shares และ H-shares ปรับขึ้น 1.5% และ 3.8% ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. 64)

 

สำหรับกองทุนหุ้นจีนภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.กสิกรไทยทุกกองทุน  ไม่มีการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงเรียนกวดวิชาทั้ง TAL Education และ New Oriental Education แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อกองทุนหุ้นจีน  โดยเฉพาะกองทุน K-CHINA, K-CHINA-SSF และ KCHINARMF จากการปรับตัวลงของตลาด อันเนื่องมาจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น Alibaba, Tencent และ Meituan ได้รับผลกระทบจาก Sentiment ของตลาดทั้งในรอบที่ผ่านมาและรอบล่าสุด

 

อย่างไรก็ดี ผู้จัดการกองทุนหลัก K-CHINA, K-CHINA-SSF และ KCHINARMF ยังคงเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจเหล่านี้ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่ยุคดิจิตัล และสอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของคนรุ่นใหม่ในจีนที่เปลี่ยนไป

 

“บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีนจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจและการบริโภค ที่จะสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับหลายกลุ่มอุตสาหกรรมในระยะยาว อาทิ กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ตามยุทธศาสตร์ Made in China 2025 ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศให้ได้ถึง 70% ภายในปีค.ศ. 2025 กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2060 และกลุ่มสุขภาพ ที่รัฐบาลจีนต้องการให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพสูง ในราคาที่เหมาะสม รวมถึงสนับสนุนการลงทุนและวิจัยเพื่อพัฒนายาและนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ”นายนาวินกล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังต้องติดตามการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดของภาครัฐต่อการควบคุมการผูกขาดในธุรกิจอื่นๆ รวมถึงการระบาดหรือกลายพันธุ์ของโควิด-19 ที่อาจทำให้เกิดการล็อกดาวน์บางส่วนได้

 

สำหรับผู้ลงทุนที่มีกองทุนหุ้นจีนอยู่ในพอร์ตและยังต้องการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองทุนหุ้นจีน แนะนำให้เข้าลงทุนเพิ่มได้ แต่หากพอร์ตมีสัดส่วนการลงทุนในกองทุนหุ้นจีนที่มากพออยู่แล้ว แนะนำให้ถือต่อไปเพื่อรอโอกาสตลาดปรับขึ้น นอกจากนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ยังไม่เคยมีกองทุนหุ้นจีนอยู่ในพอร์ต จังหวะนี้ถือเป็นโอกาสทยอยเข้าลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว