NEWS ทุ่ม 560 ล้านลงทุนในโรงแรมเมอเคียว กระจายความเสี่ยงธุรกิจ

26 พ.ค. 2563 | 12:09 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ค. 2563 | 19:30 น.
1.4 k

NEWS ทุ่ม 560 ล้านลงทุนในโรงแรมเมอเคียว กระจายความเสี่ยงธุรกิจ พร้อมเตรียมเพิ่มทุน 3 หมื่นล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม-รองรับการขยายงาน 


บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น (NEWS) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 พ.ค. อนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุน 40% ในบริษัท เว็ลธ์ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรมเมอเคียว กรุงเทพ มักกะสัน เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยจะเป็นการลงทุนซื้อหุ้นสามัญพร้อมสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมที่ซื้อขาย คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 560 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย.63 ขณะเดียวกันเตรียมเพิ่มทุน 3 หมื่นล้านหุ้น ส่วนหนึ่งจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) เพื่อรองรับการขยายงาน 
คณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้บริษัทเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นและสิทธิเรียกร้องในหนี้ ระหว่างบริษัท Cleveland Universe Limited ในฐานะผู้ขาย และ บริษัทในฐานะผู้ซื้อ ลงวันที่ 25 พ.ค.63 (สัญญาซื้อขายหุ้นและสิทธิเรียกร้องในหนี้) สำหรับการซื้อหุ้นสามัญ 40% ของ บริษัท เว็ลธ์ เวนเจอร์ส จำกัด (บริษัทเป้าหมาย) และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ของบริษัทเป้าหมายไม่เกิน 40% ตามสัญญากู้ยืมเงินระหว่างบริษัทเป้าหมายและผู้ถือหุ้นของบริษัทเป้าหมาย ลงวันที่ 30 ธ.ค.62 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (สัญญากู้ยืมเงินของบริษัทเป้าหมาย)          

สำหรับมูลค่าซื้อขายครั้งนี้ คิดเป็นเงินประมาณ 560 ล้านบาท แบ่งเป็น ราคาหุ้นที่ซื้อขาย ประมาณ 421.55 ล้านบาท และราคาสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมที่ซื้อขาย เป็นเงินประมาณ 138.45 ล้านบาท โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย.63         

ภายหลังการซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น โครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัท เว็ลธ์ เวนเจอร์ส จำกัด ประกอบด้วย NEWS ถือหุ้น 40% , นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ถือหุ้น 34.58% ,นายสุเทพ ศรีอินทราวานิช ถือหุ้น 9.86% และนายธเนศ พานิชชีวะ ถือหุ้น 15.56% ส่วนบริษัท Cleveland Universe Limited ไม่เหลือการถือหุ้นจากเดิมที่ถืออยู่ 40%      

บริษัท เว็ลธ์ เวนเจอร์ส จำกัด ประกอบธุรกิจโรงแรม เมอเคียว กรุงเทพ มักกะสัน ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่มีจำนวนทั้งหมด 25 ชั้น รวมพื้นที่เท่ากับ 17,293 ตารางเมตร โดยมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 180 ห้อง และมีห้องประชุม 3 แห่งสำหรับรองรับการประชุมทางธุรกิจและกิจกรรมของบริษัท นอกจากนี้โรงแรมยังมีห้องอาหาร 3 แห่ง ได้แก่ เดอะ สเตชั่น (The Station) ซึ่งเปิดให้บริการตลอดวัน, เอ็ม ไวน์ เลาจน์ (M Wine Lounge) ซึ่งมีไวน์ ค็อกเทล และอาหารจานอร่อยให้เลือกมากมาย และเดอะ พูล บาร์ (The Pool Bar)      

แหล่งเงินลงทุนครั้งนี้ จะมาจากเงินสดจากภายในบริษัท ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนที่จะใช้ในการดำเนินงานของบริษัท และการขายหุ้นหรือเงินลงทุนบางส่วนของบริษัทย่อย รวมถึงการเพิ่มทุนจดทะเบียนซึ่งคาดว่าจะได้ระดมทุนได้ไม่เกิน 96.98 ล้านบาท        

บริษัทเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ธุรกิจผู้ผลิตสื่อ (Content Provider) ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของบริษัทนั้น มีอัตราการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมสูง อีกทั้งยังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจาก Disruptive Technology และปัจจัยความเสี่ยงอื่นที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยบริษัทไม่อาจควบคุมได้ ดังนั้น การซื้อสินทรัพย์ครั้งนี้บริษัทเล็งเห็นถึงแนวโน้มของธุรกิจโรงแรมที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคตได้ดี เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีกระแสเงินสดที่คาดหมายได้แน่นอนจากการประกอบธุรกิจ ซึ่งบริษัทมองถึงผลประโยชน์ในระยะยาวที่จะรับในอนาคตในฐานะผู้ถือหุ้น       

 นอกจากนี้การลงทุนในธุรกิจโรงแรม บริษัทเห็นว่าเป็นการขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีสินทรัพย์ถาวร เป็นการขยายขอบเขตของการประกอบธุรกิจและเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจของบริษัท เพื่อช่วยให้บริษัทลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงบุคลากร ในธุรกิจสื่อของบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อโครงการการพัฒนาที่ดินบริเวณมักกะสันนั้นดำเนินการเสร็จสิ้น ราคาห้องพักของบริษัทเป้าหมายมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกอย่างมีนัยสำคัญเพราะโครงการการพัฒนาที่ดินบริเวณมักกะสันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณนั้นได้รับการพัฒนาเช่นเดียวกัน        

 สำหรับความเสี่ยงหรือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้น เห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีเหตุการณ์โรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้น ทางบริษัทเป้าหมายได้มีนโยบายการจัดการเพื่อลดผลกระทบ เช่น การปิดการให้บริการห้องพักชั่วคราวตั้งแต่เดือนเม.ย.-พ.ค. เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมถึงมีนโยบายการกวดขันเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยของห้องพักและอาหารหากมีการกลับไปเปิดให้บริการเพื่อภาพลักษณ์ของโรงแรม       

 แม้ว่างบการเงินในอดีตของบริษัทเป้าหมายจะบันทึกผลขาดทุน แต่คณะกรรมการได้พิจารณาถึงสาเหตุของการขาดทุนเรียบร้อยแล้วว่าเกิดจากค่าเสื่อมสะสมทางบัญชีเป็นหลัก ทั้งนี้ หากพิจารณาในส่วนของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จะเห็นได้ว่าในอดีตบริษัทเป้าหมายมี EBITDA เป็นบวกมาโดยตลอด อีกทั้งการที่บริษัทเข้าไปร่วมลงทุนด้วยในครั้งนี้ บริษัทยังสามารถที่จะขยายการดำเนินธุรกิจสื่อไปยังช่องทางต่าง ๆ ของโรงแรมดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการช่วยในการโปรโมทเพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และผลประกอบการในอนาคตที่ดีขึ้นให้กับโรงแรม         

ทั้งนี้ จากการพิจารณาถึงสมมติฐานที่ใช้ในการประเมินมูลค่าบริษัทเป้าหมายซึ่งรวมผลกระทบจากโควิด-19 แล้ว มีความเห็นว่าราคาซื้อขายสมเหตุสมผล และรายการดังกล่าวมีความเหมาะสมและเป็นไปเพื่อประโยชน์ของบริษัท รวมทั้งเป็นการเข้าทำรายการที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่สมเหตุสมผล         

NEWS ระบุอีกว่าคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น160,872,208,595.00  บาท จากเดิมที่ 130,807,738,896 บาท โดยออกหุ้นใหม่ 3 หมื่นล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท โดยจัดสรรจำนวน 9.7 พันล้านหุ้น ให้กับ RO ในสัดส่วน 7 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.01 บาท ส่วนที่เหลืออีก 2.04 หมื่นล้านหุ้น เป็นการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate)      

นอกจากนี้ยังอนุมัติให้บริษัทเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น ระหว่างบริษัทในฐานะผู้ขาย และบมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (NBC)  ในฐานะผู้ซื้อ สำหรับการขายหุ้นสามัญในบริษัท กรีนเน็ต 1282 จำกัด (GNET) ซึ่งประกอบกิจการประเภทการบริการอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายและไร้สาย ที่บริษัทถืออยู่ 99.99% ของเงินลงทุนทั้งหมดของบริษัท คิดเป็นมูลค่า 164.4 ล้านบาท โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.63