TNRโชว์ผลงาน Q4/62โตโดดเด่นหนุนกำไรสุทธิทั้งปี 133ลบ.

27 ก.พ. 2563 | 16:45 น.

TNRโชว์ผลงาน Q4/62โตโดดเด่นหนุนกำไรสุทธิทั้งปี 133ลบ. ชูพอร์ตรายได้ถุงยางอนามัย PLAYBOY และ ONETOUCHTM พุ่ง ดันอัตรากำไรขั้นต้น  ชงบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.24 บาทต่อหุ้น

 

นายอมร   ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทย เผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2562 มียอดขายและกำไรโดดเด่นที่สุดในรอบปี โดยมีรายได้จากการขายสินค้าในไตรมาสสุดท้าย 486 ล้านบาท เติบโต 24% โดยทำกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 67 ล้านบาท เติบโต 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การเติบโตดังกล่าวมีปัจจัยมาจาก  การวางกลยุทธ์เพิ่มยอดขายกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ หรือ Original Brand Manufacturer (OBM) ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่ากลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) และกลุ่มงานประมูล (Tender) โดยเฉพาะถุงยางอนามัยแบรนด์ PLAYBOY ที่มียอดขายในไตรมาสสุดท้ายถึง 123 ล้านบาท หลังจากประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดและเพิ่มยอดขายในสหรัฐอเมริกา สามารถเจาะช่องทางห้างค้าปลีกวอลล์มาร์ท และช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซชั้นนำ amazon.com

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2562 ของบริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้า 1,540 ล้านบาท เติบโต 8% เทียบกับปี 2561 มีรายได้จากการขาย 1,425 ล้านบาท (หลังจัดประเภทใหม่) ปัจจัยมาจากการวางกลยุทธ์ปรับสัดส่วนยอดขายจากแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า OBM ได้แก่ แบรนด์ PLAYBOY และแบรนด์ ONETOUCHTM ที่มีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 27% เทียบกับปี 2561 อยู่ที่ 14% ของรายได้จากการจำหน่ายถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่น ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยในปี 2562 เพิ่มขึ้นเป็น 26% จากปี 2561 อยู่ที่ 22%

TNRโชว์ผลงาน Q4/62โตโดดเด่นหนุนกำไรสุทธิทั้งปี 133ลบ.

ส่วนภาพรวมของกลุ่มบริษัทฯ กำไรสุทธิปี 2562 อยู่ที่ 100 ล้านบาท เทียบกับปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 274 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากไม่นับรวมกำไรพิเศษในปี 2561 ที่เกิดขึ้นจากการบันทึกส่วนต่างจากการซื้อธุรกิจบริษัท บ๊อก เอเชีย กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 173 ล้านบาท ถือว่าบริษัทฯ สามารถทำกำไรสุทธิปี 2562 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ท่ามกลางผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบปีที่ผ่านมา  และความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลกจากปัจจัยสงครามการค้า เนื่องจากมีการติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิดและทำประกันความเสี่ยงค่าเงินเพื่อลดผลกระทบ

ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการปี 2562 หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่าง ๆ ในอัตราหุ้นละ 0.24 บาท รวมเป็นเงิน 72 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 10 มีนาคม 2563 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้จะเสนอที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 เพื่ออนุมัติการจ่ายเงินปันผลต่อไป

“ในปี 2563 เรายังคงมุ่งเพิ่มยอดขายจากกลุ่มสินค้า OBM อย่างต่อเนื่อง โดยมีแบรนด์ ONETOUCHTM เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางเน้นทำตลาดในไทยและกลุ่มประเทศ CLMV ส่วนแบรนด์ PLAYBOY วางตำแหน่งเป็นสินค้าโกลบอลแบรนด์เจาะตลาดกลางถึงบน จะรุกขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอเมริกา จีน อินเดีย ทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา” นายอมร กล่าวทิ้งท้าย