KTC ลุยดิจิทัล โจทย์ใหญ่ Best CEO

05 ธ.ค. 2562 | 07:09 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ธ.ค. 2562 | 14:09 น.
595

สัมภาษณ์

เศรษฐกิจปี 2563 ไม่คิดว่าจะดีมากนัก เราอาจจะมีกลยุทธ์ในการพยายามที่จะเติบโตอย่างไรก็ตามแต่ เชื่อว่าตัวเลขที่ตั้งไว้นั้นจะบรรลุเป้าหมาย แต่โอกาสที่จะบรรลุนั้นไม่ง่าย และยากกว่าที่ผ่านมาทั้งหมด ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) กล่าวในงานแถลงข่าวทิศทางการดำเนินธุรกิจของเคทีซีในปี 2563 สาธารณรัฐแอฟริกาใต้

ระเฑียรบิ๊กบอสเคทีซี เพิ่งได้รับการขยายกำหนดเวลาเกษียณอายุออกไปอีก 3 ปี โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 - 30 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งรวมอายุการดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารถึง 11 ปีเลยทีเดียว และการันตีด้วยรางวัลBest CEO ของ SET Awords 2019” จากการบริหารด้วยการให้บุคลากรสำคัญที่สุด เพราะเป็นหัวใจของทุกอย่าง ตามด้วยกระบวนการ เทคโนโลยี กลยุทธ์ และโครงสร้าง

ขณะที่ในปี 2563 ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีดิจิทัลที่รวดเร็วได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินธุรกิจ อีกทั้งไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เคทีซีจึงต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในอัตราเร่ง เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยจากนี้ไปจะมุ่งสร้างธุรกิจให้เติบโตด้วยวิสัยทัศน์ใหม่สู่การเป็น แพลตฟอร์มการเงินหลักที่อยู่เคียงข้างสังคมไทยและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ด้วย 2 แพลตฟอร์มคือแพลตฟอร์มการชำระเงินและแพลตฟอร์มสินเชื่อรายย่อย

KTC ลุยดิจิทัล โจทย์ใหญ่ Best CEO

ระเฑียร ศรีมงคล

แพลตฟอร์มดังกล่าวจะมุ่งเน้น 3 จุดแข็งหลักคือ ปลอดภัย รวดเร็ว และสร้างประสบการณ์ที่ดี เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิกและคนไทย รองรับการขยายธุรกิจใหม่เข้าไปในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกัน และธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพิ่มเติมจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่มีอยู่ ซึ่งจะทำให้เคทีซีสามารถนำเสนอสินเชื่อให้กับผู้บริโภคได้หลากหลายและครบวงจร ทั้งสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน” “พิโกพลัส” (สินเชื่ออเนกประสงค์ให้กับรายย่อยระดับจังหวัด)” และธุรกิจนาโนไฟแนนซ์” (สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้มีรายได้ไม่แน่นอน) ซึ่งทยอยเปิดให้บริการแล้ว คาดว่าทั้ง 3 ธุรกิจใหม่นี้ จะสามารถเริ่มรับรู้กำไรได้ประมาณ 18-24 เดือน นับตั้งแต่วันที่ดำเนินธุรกิจจริง

 

นอกจากนี้ ยังจะเห็นเคทีซีปรับตัวครั้งใหญ่สู่การเป็นองค์กรคล่องตัว” (Agile Organism) หรือองค์กรที่มีชีวิต เพื่อให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจให้ตรงและเท่าทันกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนแนวคิดการทำงานแบบเดิมๆ ที่เหมือนเครื่องจักร ไปสู่การทำงานแบบใหม่ที่มีโครงสร้างองค์กรชัดเจน ยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ผ่าน 5 องค์ประกอบหลักคือ กลยุทธ์ (Strategy) สร้างโอกาสและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะสมาชิกเคทีซีและสังคมไทย, โครงสร้าง (Structure) กำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากรให้ชัดเจน สนับสนุนให้บุคลากรในทีมดูแลงานและแก้ปัญหาได้เอง สร้างผลงานที่ดี

ขณะเดียวกันกระบวนการ (Process) คิดวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นในการทำงาน สร้างวงจรแห่งการเรียนรู้และสนับสนุนให้เกิดการตัดสินใจ ลดความเสี่ยงและสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้น, คน (People) ยึดโยงคนที่มีความสามารถโดดเด่นเข้าด้วยกัน ส่งเสริมให้บุคลากรเกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมเป็นเจ้าขององค์กร ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้มีประสิทธิภาพ และสุดท้าย คือ เทคโนโลยี (Technology) เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่ต้องผนวกเข้ากับทุกมิติขององค์กร

ไม่เพียงแค่นี้ เคทีซียังคงตั้งเป้าหมายในส่วนอื่นๆ ของบริษัท โดยคาดว่าปี 2563 จะสามารถรักษาสัดส่วนการเติบโตของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยรวมได้ที่ประมาณ 10% รวมถึงเพิ่มปริมาณสินเชื่อพร้อมกับการสร้างคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น, ตั้งเป้าหมายสมาชิกบัตรเครดิตใหม่ 350,000 ใบ และบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว210,000 ใบ และผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างสินเชื่อเคทีซีพี่เบิ้ม

นอกจากนี้จะขยายพันธมิตรร้านค้าจะมุ่งนำเสนอบริการรับชำระที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้าในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,528 วันที่ 5-7 ธันวาคม 2562

                     KTC ลุยดิจิทัล โจทย์ใหญ่ Best CEO