"กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร" ไฟเขียวอนุมัติงบให้ อ.ส.ค. ชำระหนี้ 200 ล้าน ค่าน้ำนมดิบ

วันที่ 10 มิถุนายน 2568  แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทางคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ได้มีการประชุม ครั้งที่ 4/2568 โดยมี นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม  ซึ่งในที่ประชุมมีมติเห็นชอบสนับสนุนเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรเพื่อดำเนินงานโครงการรับซื้อน้ำนมดิบเพื่อการผลิตขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) วงเงิน 200 ล้านบาท (ยังคงติดค้างจ่ายเกษตรกร)

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมขอให้ อ.ส.ค. ปรับรายละเอียดของโครงการให้มีความชัดเจนมากขึ้นก่อนนำเสนอ ครม. ต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบรายงานความก้าวหน้าสถานการณ์ทางการเงินและสถานะลูกหนี้ รายงานผลโครงการที่ขอใช้เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร รายงานผลความก้าวหน้าการลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการที่ได้รับจัดสรรเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร และรายงานความสามารถในการชำระหนี้โครงการที่ขอใช้เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร

แหล่งที่มาของเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร

1. การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกข้าว (พรีเมี่ยมข้าว) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 จนกระทั่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2529 ให้ยกเลิกการจัดเก็บ ซึ่งรวมวงเงินจัดเก็บทั้งสิ้นจำนวน 9,996,850,000.00 บาท

2 .เงินช่วยเหลือจากสหพันธ์สาธารณรัฐจำนวน 10 ล้านดอยช์มาร์ค เมื่อปี 2523 สำหรับให้ อ.ต.ก.จัดหาปุ๋ยเคมี เพื่อจำหน่ายและนำเงินส่งเข้ากองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2545 มีเงินคงเหลือนำส่งเข้ากองทุนสงเคราะห์เกษตรกร จำนวน 85,730,000.00 บาท ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2546 อนุมัติจัดสรรเงินช่วยเหลือจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันดังกล่าว มอบให้กับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ 45,000,000.00 บาท มูลนิธิชัยพัฒนา 20,000,000.00บาท สำหรับเงินส่วนที่เหลือพร้อมดอกผลที่เกิดขึ้นให้นำเข้าไว้ในกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรและให้ใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร

3. เงินทุนจัดหาที่ดินเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อน ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2540ให้นำเงิน 1,200,000,000.00 บาท เข้าไว้ในกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร โดยให้เปิดบัญชีแยกต่างหาก ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2543 ให้ปิดบัญชีเงินกองทุนจัดหาที่ดินฯ และโอนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยรวมจำนวนทั้งสิ้น 1,297,620.00 บาท เข้าไว้ในกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร

4. งบเงินกองทุนพิเศษเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ปอ ซึ่งได้มาจากเงินค่าธรรมเนียมการส่งออกปอไปนอกราชอาณาจักร จำนวน 1,250,000.00 บาท และเงินบริจาคของสมาคมโรงงานทอกระสอบจำนวน 50,000,000.00 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 51,250,000.00 บาท