Inside Asian Gaming หรือ IAG เผยแพร่บทสัมภาษณ์ "เอด โบเวอร์ส ประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจระดับโลกของ MGM Resorts" ที่เขียนโดย Ben Blaschke เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยผู้บริหาร MGM ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยรักษาอัตราภาษีกาสิโนที่แข่งขันได้ และเปิดโอกาสให้คนท้องถิ่นเข้าถึงบริการอย่างเหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจคาสิโนในประเทศประสบความสำเร็จ
หลังจากเข้าพบเจ้าหน้าที่รัฐเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โบเวอร์สกล่าวกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า หน่วยงานภาครัฐควรร่วมมือกับผู้ประกอบการเพื่อทำความเข้าใจการดำเนินงานของธุรกิจกาสิโนอย่างแท้จริง เพราะหากเป้าหมายของรัฐไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ แผนงานอาจล้มเหลวได้
โบเวอร์ส เคยกล่าวในงาน G2E Asia เมื่อเดือนนี้ว่า กฎระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงานกาสิโนต้องเอื้อต่อการคืนทุนที่เหมาะสม เนื่องจากต้นทุนการพัฒนารีสอร์ตแบบครบวงจร (Integrated Resort) สูงขึ้นและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง อัตราภาษีที่เหมาะสม จำนวนใบอนุญาตที่เพียงพอ ระยะเวลาสัมปทานที่เหมาะสม การเข้าถึงของคนท้องถิ่น และความสามารถในการทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย คือปัจจัยสำคัญของการบริหารคาสิโนที่ประสบความสำเร็จ
เขายกตัวอย่างสิงคโปร์ที่เก็บภาษีกาสิโนสูงสุด 12% สำหรับผู้เล่นระดับพรีเมียม และ 22% สำหรับผู้เล่นทั่วไป ซึ่งต่ำกว่าระดับ 40% ในมาเก๊าอย่างมาก
โบเวอร์ส ยังชี้ให้เห็นความท้าทายของผู้ประกอบการที่ต้องดำเนินงานในระบบที่ให้บริการเฉพาะชาวต่างชาติเท่านั้น เช่นกรณีของ INSPIRE Entertainment Resort ในเมืองอินชอน ประเทศเกาหลี ที่ผู้ให้กู้ต้องเข้าควบคุมหลังเจ้าของเดิมไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินงานได้
ในประเด็นความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการพนันและการฟอกเงินที่ถูกวิจารณ์ในช่วงที่ผ่านมา โบเวอร์สยืนยันว่า รีสอร์ตแบบครบวงจรมีทรัพยากรมากพอที่จะจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้ดีกว่าที่อื่น ๆ
“รีสอร์ตแบบครบวงจรไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาการพนันที่มีอยู่เดิมได้” เขากล่าว
เอ็มจีเอ็ม รีสอร์ตส์ ซึ่งเคยประกาศว่าจะยื่นขอใบอนุญาตรีสอร์ตแบบครบวงจรในไทยผ่านบริษัทลูกในมาเก๊า MGM China ได้เน้นย้ำถึงความสนใจในกรุงเทพฯ สำหรับการพัฒนาธุรกิจนี้ เนื่องจากจำนวนประชากรที่มาก โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ และความใกล้ชิดกับสนามบินนานาชาติ
ที่มา - Inside Asian Gaming: IAG