วันนี้ (10 มีนาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ วันนี้ ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 3 ผ่านการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี รวมทั้งหมด 2.7 ล้านคน คาดว่า จะจ่ายเงินลงไปถึงมือได้ภายในปลายไตรมาส 2 ปีนี้ หรือต้นไตรมาสที่ 3 ปีนี้
“รัฐบาลเห็นว่าคนกลุ่มนี้มีความเหมาะสม เพราะเป็นกลุ่มที่อยู่วัยเรียน สามารถนำไปใช้จ่ายในสิ่งของที่จำเป็นการการเรียน หรือช่วยเหลือพ่อแม่ได้ ส่วนกลุ่มที่อายุเกิน 20-60 ปี รัฐบาลจะดูความเหมาะสมของช่วงเวลาอีกครั้ง เพราะมีความแตกต่างกัน โดยจะใช้ระบบของดิจิทัลวอลเล็ตไปดำเนินการ” นายพิชัย กล่าว
ส่วนความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจต่อการดำเนินโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 นั้น นายพิชัย ระบุว่า ที่ผ่านมาอาจมีความเห็นที่ไม่เหมือนกันว่ามีความคุ้มค่ามากแค่ไหน จะกระตุ้น GDP ขึ้นมาอย่างไร แต่เชื่อว่า จะช่วยกระจายเงินลงไปในพื้นที่ได้ และช่วยบรรเทาภาวะหนี้ครัวเรือนลงได้ด้วย ซึ่งสองเรื่องนี้จะมีประโยชน์ในเชิงคุ้มค่ามากกว่า
อย่างไรก็ตามนายกฯ ยังมอบหมายให้ติดตามโครงการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการป้องกันความผิดพลาดของโครงการ โดยนำความผิดพลาดจากการดำเนินการในเฟสที่ผ่านมาเป็นตัวอย่าง ซึ่งกระทรวงการคลัง จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมากำกับดูแลต่อไป
ขณะที่ไทม์ไลน์ของโครงการนั้น ขั้นตอนต่อจากนี้ จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็ว ๆ นี้ ก่อนจะเริ่มต้นโครงการเร็วที่สุด คือไตรมาสที่ 2 หรือต้นไตรมาสที่ 3 ปี 2568 โดยดูความเหมาะสมของเงินงบประมาณที่มีอยู่เป็นหลัก
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ในการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี ครั้งนี้ รัฐบาลได้ตัดเงื่อนไขเดิมออก 2 ส่วน คือ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า ในการใช้เงินงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ครั้งนี้ รัฐบาลจะพิจารณาให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ โดยกันเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเอาไว้ 1.5 แสนล้านบาท ในปี 2568 ซึ่งเชื่อว่า มีกระสุนเพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจ่ายเงินให้กลุ่มนี้ก่อนนั้น ถือว่ามีความสามารถในการใช้จ่ายในช่วงเวลานี้ ส่วนกลุ่มอื่นจะดูตามความเหมาะสมต่อไป