หลังจากที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการพิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ผ่านการแจกเงินดิจิทัล 10,000 จะแจกกลุ่มคนที่มีอายุ 16-20 ปีก่อน โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย
ประเด็นที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือ การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับเงิน โดยผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลมุ่งเน้นการแจกเงินให้กับกลุ่มผู้สูงอายุในเฟสก่อนหน้า และกลุ่มเยาวชนในเฟสนี้ แต่กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มวัยทำงานซึ่งเป็นผู้เสียภาษีหลักให้กับประเทศ
1. การเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มวัยทำงาน หลายความเห็นระบุว่า "คนทำงาน เสียภาษีอย่างเดียว" และ "คนวัยทำงานหาเงินแทบตาย ไม่ได้อะไรเลย"
2. ความสงสัยในประสิทธิภาพของการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีผู้ตั้งคำถามว่าการแจกเงินให้กลุ่มอายุ 16-20 ปี จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ โดยหลายคนเห็นว่าเงินอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ได้สร้างการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น "จะให้ตังค์เด็กไปเติมเกมส์หรือไง" หรือ "แจกกลุ่มที่ไม่เคยเสียภาษีและยังไม่เคยทำงานมาก่อน"
3. ความไม่แน่นอนของนโยบาย หลายความเห็นวิจารณ์ว่านโยบายมีความไม่แน่นอน ไม่เป็นไปตามที่หาเสียงไว้ โดยเฉพาะประเด็น "พายุหมุนทางเศรษฐกิจ" ที่กลายเป็นการทยอยแจกเป็นกลุ่มๆ
4. ความกังวลเรื่องงบประมาณแผ่นดิน มีผู้แสดงความกังวลว่า "เงินในคลังหมดยัง" และวิจารณ์ว่าเป็นการ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ"
5. มองว่าเป็นการหาเสียง หลายความคิดเห็นมองว่านโยบายนี้เป็นการ "หาเสียงล่วงหน้า" หรือ "ซื้อเสียง" จากกลุ่มเยาวชนที่จะมีสิทธิเลือกตั้งในอนาคต
ทั้งนี้ รองนายกฯ พิชัย ยังไม่ได้ให้ความชัดเจนว่าจะมีการดำเนินโครงการเฟส 4 เพื่อแจกเงินให้กลุ่มอื่นๆ ต่อไปหรือไม่ โดยระบุเพียงว่า "พิจารณาตามความเหมาะสม" ยิ่งทำให้เกิดคำถามจากประชาชนถึงการบริหารนโยบายการเงินของรัฐบาลชุดนี้