ผ่าค่าลิขสิทธิ์ MotoGP วัดใจการเมือง ต่อสัญญาจัดโมโตจีพี 2027

04 มี.ค. 2568 | 13:25 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2568 | 13:26 น.

ปมร้อน MotoGP การแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก บุรีรัมย์ ลุ้นหนักต่อ-ไม่ต่อสัญญาโมโตจีพี 2027 ฐานเศรษฐกิจตรวจสอบข้อมูล “ค่าลิขสิทธิ์” การแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการนี้ แบบเจาะลึก

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี หรือ MotoGP สนามแรกของฤดูกาล PT GRAND PRIX OF THAILAND 2025 กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง ภายหลังสัญญาการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันของประเทศไทยจะสิ้นสุดในปี 2569 หรือ MotoGP 2027 

ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการต่อสัญญา MotoGP 2026 ที่อาจจะเป็นปีสุดท้ายของประเทศไทย หากไม่มีการดำเนินการต่อสัญญา โดยนายกฯ แจ้งว่า ได้สั่งการไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังต้องมีการพูดคุยกันอีกทีหนึ่ง และดูในเรื่องของตัวเลขว่าประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์อย่างไร

พร้อมระบุว่า ในทุกโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน โดยเฉพาะประชาชนจำนวนมากที่จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ รัฐบาลต้องมีการดำเนินการต่ออย่างแน่นอน แต่ถ้าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นประโยชน์ มีตัวเลขขาดทุน ก็ต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่ออย่างไรต่อไป

อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาตัวเลขทางเศรษฐกิจหลังจบการแข่งขันโมโตจีพี MotoGP สนามแรกของฤดูกาล PT GRAND PRIX OF THAILAND 2025 จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2568 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานสถิติว่า มีผู้เข้าร่วมงาน 224,634 คน เป็นคนไทย 172,565 คน และชาวต่างชาติ 52,069 คน

ทั้งนี้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 5,043 ล้านบาท และกระตุ้นการใช้จ่ายกว่า 4,268 ล้านบาท ขณะที่งบจัดงาน 775 ล้านบาท สามารถสร้างงาน 7,772 ตำแหน่ง และรัฐเก็บภาษีได้กว่า 318 ล้านบาท

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังถึงการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี MotoGP ของไทย ซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2563 โดยที่ประชุมเห็นชอบการเสนอตัวของไทย และกรอบวงเงินงบประมาณค่าลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขันโมโตจีพี

สำหรับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการโมโตจีพี MotoGP ของไทย นั้น เดิมกำหนดระยะเวลาไว้ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2568 แต่ต่อมามีการขยายสัญญาออกมา 1 ปี หลังจากประเทศไทยงดการแข่งขันในปี 2563 เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ทำให้สัญญาเดิม 3 ปี จัดได้เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ดังนั้นในการต่อสัญญาใหม่จึงมีการขยายระยะเวลาเป็นปี 2565-2569

ค่าลิขสิทธิ์ MotoGP ของไทย

จากการตรวจสอบข้อมูลหนังสือราชการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2563 แจ้งข้อมูลว่า

ค่าลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี MotoGP มีวงเงินค่าลิขสิทธิ์ ทั้งสิ้น 50 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งจะต้องจ่ายให้กับดอร์น่า สปอร์ต กรุ๊ป ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์

อย่างไรก็ตามกรณีประเทศไทยจะต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโตจีพี หรือ MotoGP ประจำปี 2565-2568 ระยะเวลา 5 ปี (ข้อตกลงเดิมก่อนขยายเวลา) จะมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 3,248,140,500 บาท ประกอบไปด้วย ค่าลิขสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน ค่าสิทธิการเป็นผู้สนับสนุนหลัก ค่าใช้จ่ายในการจัดแข่งขัน และค่าตอบแทนผู้บริหารสิทธิ์ โดยมีแหล่งที่มาของเงินทุน ประกอบด้วย

  • จัดตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ค่าลิขสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 900,000,000 บาท (รัฐบาลช่วย 50% ของค่าลิขสิทธิ์)
  • ขอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชน/ กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ/ ตั้งงบประมาณ รายจ่ายประจำปีสมทบ เป็นจำนวนเงิน 2,348,140,500 บาท

อย่างไรก็ดี ณ ปัจจุบัน ความชัดเจนเรื่องของการต่อสัญญาการแข่งขันรายการโมโตจีพี MotoGP 2027 ของไทยยังไม่สามารถสรุปได้ จึงต้องรอการตัดสินใจของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ คาดว่า เร็ว ๆ นี้ จะได้รู้คำตอบร่วมกัน