เยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาท อีก 4 แสนครัวเรือน ครม.สัญจรเคาะงบ 3,653 ล้าน
ครม.สัญจร สงขลา อนุมัติงบกลาง เพิ่มเติมจำนวน 3,653.72 ล้านบาท จ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบน้ำท่วมในช่วงฤดูฝนปี 2567 ครัวเรือนละ 9,000 บาท รวมทั้งสิ้น 405,969 ครัวเรือน
วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2568) ที่จังหวัดสงขลา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) มีมติอนุมัติงบประมาณปี 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติมจำนวน 3,653.72 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 ครัวเรือนละ 9,000 บาท รวมทั้งสิ้น 405,969 ครัวเรือน
สำหรับครัวเรือนที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาในครั้งนี้ จะต้องไม่เป้นครัวเรือนที่ได้รับความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 ครัวเรือนละ 9,000 บาท มาแล้ว โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยรับงบประมาณ และเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยผ่าน ธนาคารออมสิน และให้เบิกในงบอุดหนุน ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป รวมทั้งให้สามารถถัวจ่ายข้ามจังหวัดได้
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ครม. (17 ก.ย.67) ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 67 และอนุมัติกรอบวงเงินงบกลางฯ ปี 67 จำนวน 3,045.519 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 67 จำนวน 338,391 ครัวเรือน ในพื้นที่ 57 จังหวัด โดยให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ฯ ให้สามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้เร็วที่สุดและเท่าทันสถานการณ์
ต่อมา ครม. (8 ต.ค.67) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ฯ ใหม่ ในอัตราเหมาจ่ายครัวเรือนละ 9,000 บาท ตามที่ กระทรวงมหาดไทยเสนอ เนื่องจากการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ฯ เดิมต้องใช้เวลาในการประเมินประเภทของผู้ประสบภัยว่าเข้าข่ายต้องจ่ายเงินช่วยเหลือในอัตราใด ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติโดยเร็ว
จากนั้น ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 ยังมีมติอนุมัติกรอบวงเงินงบกลางฯ ปี 68 จำนวน 5,039.79 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 67 จำนวน 559,977 ครัวเรือน ในพื้นที่ 16 จังหวัด ดังนี้
- ช่วงวันที่ 20 พ.ค. 67 - 2 พ.ย. 67 จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท, บุรีรัมย์, สมุทรสาคร และสิงห์บุรี
- ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 67 เป็นต้นไป จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, ประจวบคีรีขันธ์, ตรัง, พัทลุง, ยะลา, สงขลา, สตูล และสุราษฎร์ธานี
อย่างไรก็ตามภายหลังจากมติ ครม. ดังกล่าว มีผู้ประสบอุทกภัยเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ลงทะเบียนประสบอุทกภัยจำนวน 1,179,999 ครัวเรือน (เพิ่มขึ้น 620,022 ครัวเรือน) ประกอบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ระนอง ส่งผลให้ จ.ระนอง เกิดอุทกภัยและมีประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 1,136 ครัวเรือน อย่างไรก็ตาม จ.ระนอง ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่จะได้รับเงินช่วยเหลือตามมติ ครม. (3 ธ.ค. 67)
ดังนั้น กระทรวงมหาดไทย จึงเสนอขอให้ ศปช. และสำนักงบประมาณ อนุมัติกรอบวงเงินงบกลางฯ ปี 68 เพิ่มเติมอีกจำนวน 5,261.05 ล้านบาท รวมเป็น 10,619.99 ล้านบาท และอนุมัติพื้นที่ดำเนินการเพิ่มเติมในพื้นที่ จ.ระนอง ล่าสุด ศปช. เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 68 มีมติเห็นชอบในหลักการการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 67 เพิ่มเติม ในพื้นที่ 17 จังหวัด (รวม จ.ระนอง) จำนวน 405,969 ครัวเรือน วงเงิน 3,653.72 ล้านบาท