เงินดิจิทัลไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ คลัง ให้โอกาสอีก 3 รอบรับเงิน 10,000 บาท

27 ม.ค. 2568 | 14:03 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ม.ค. 2568 | 14:14 น.
2.6 k

“คลัง” แจงหากผู้ได้รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์บัตรประชาชน เผยยังมีโอกาสอีก 3 รอบ รีบด่วนก่อนหมดสิทธรับเงิน

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2568 กระทรวงการคลัง โดย กรมบัญชีกลาง ได้โอนเงินจำนวน 10,000 บาทให้กับผู้ที่ตรวจสอบสิทธิสำเร็จผ่านแอปทางรัฐ จำนวน 3.02 ล้านคน ในวันที่ 22 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา  

โดยในวันนี้ กระทรวงการคลัง โดย กรมบัญชีกลาง ได้ทยอยโอนเงินดิจิทัล  10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ผูกบัตรประชาชน ในวันที่ 22 มกราคม 2568

 

 

 

กระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงว่าหากเงินดิจิทัลยังไม่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน กระทรวงการคลัง วางแผนตารางโอนเงินจ่ายซ้ำ 3 รอบดังนี้

รอบที่ 1: วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 (ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568)

รอบที่ 2: วันที่ 28 มีนาคม 2568 (ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 25 มีนาคม 2568)

รอบที่ 3:  วันที่ 28 เมษายน 2568 (ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 23 เมษายน 2568)

ทั้งนี้ หากพ้นกำหนดการโอนครั้งที่ 3 (28 เม.ย. 68) จะถือว่าท่านไม่ประสงค์รับเงิน และรัฐจะยุติการจ่ายเงินในโครงการ

ตารางโอนเงินซ้ำ 3 รอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000

 

 

 

วิธีผูกพร้อมเพย์บัตรประชาชน

  • ผู้ได้รับสิทธิต้องเช็กว่าบัญชีที่เปิดไว้ผูกพร้อมเพย์กับธนาคารหรือยัง

  • ถ้ายังสามารถไปดำเนินการที่สาขาที่มีบัญชีอยู่
  • ดำเนินการสมัครด้วยตัวเองผ่านแอปฯของธนาคารที่ถือของบัญชี

 

ขั้นตอนผูกบัญชีพร้อมเพย์บัตรประชาชน

ยกตัวอย่างการผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนผ่านทางธนาคารกรุงไทย ต้องมีบัญชีเงินฝากของธนาคาร ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้

  • สมัครพร้อมเพย์ผ่านแอป Krungthai NEXT
  • สมัครพร้อมเพย์ ผ่านตู้ ATM สีเงิน

  • สมัครพร้อมเพย์ ผ่านตู้ ATM สีฟ้า

 

ช่องทางการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

  • ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิและผลการได้รับเงินในโครงการฯ: แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
  • เว็บเพจรวบรวมข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของโครงการฯ: เว็บไซต์กระทรวงการคลัง www.mof.go.th แบนเนอร์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ https://mof.go.th/th/detail/2024-12-27-15-36-42/2024-12-27-15-42-50  (คลิกที่นี่) 
  •  Call Center สำหรับสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน สายด่วน 1111.

ที่มา : กระทรวงการคลัง