ไทย ประกาศความมุ่งมั่นแก้ปัญหา IUU กรุงบรัสเซลส์ บังคับใช้กฎหมายเข้มข้น

จากกรณีที่ประเทศไทยภายใต้นโยบาย รัฐบาล  ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และการบังคับใช้แรงงานในภาคการประมง โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้แต่งตั้งชุดปฏิบัติการตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการประมง เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประมง กรมเจ้าท่า  ศรชล. เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ทั้งตรวจสอบการใช้เครื่องมือทำประมง การเปิดสัญญาณ VMS ประจำเรือการบังคับใช้แรงงานข้ามชาติ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ เช่น การส่งออกสินค้าไทย และยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศต่อสายตานานาประเทศอีกด้วย

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม นายเสข วรรณเมธี เอกอัครราชทูตไทยประจำ กรุงบรัสเซลส์ ได้นำคณะผู้แทนจากรัฐบาลไทย ประกอบด้วยหน่วยงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบ นาง Charlina Vitcheva ปลัดกระทรวงกิจการทางทะเลและประมง คณะกรรมาธิการยุโรป (Director-General of the Directorate General for Maritime Affairs and Fisheries: DG MARE) และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการต่อต้านการทำประมง IUU เพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ในประเทศไทย หรือ IUU

สำหรับการเข้าหารือ ครั้งนี้ มุ้งเน้นไปที่การดำเนินการแก้ไขปัญหา การบังคับใช้กฎหมายในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุมของไทย อย่างจริงจัง รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือจากทางสหภาพยุโรป โดย ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. เป็นผู้แทน

ทั้งนี้ คณะผู้แทนฝ่ายไทย ได้ชี้แจงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม โดยได้สรุปผลงานภาพรวมของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนในการเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดในการทำประมง รวมทั้งการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้ ทางผู้แทนจากสหภาพยุโรปเห็นถึงความพยายาม ในการขจัดปัญหา 

โดยฝ่ายทางฝ่ายสหภาพยุโรป ได้ให้ความสนใจและซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการในการดำเนินคดี การสืบสวน โดยเฉพาะการนำเสนอ แนวทางการประสานงานในติดตามจับกุมเรือประมงที่กระทำความผิด รวมทั้งสถิติการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาภาคประมงของไทย ที่มีการดำเนินคดีที่เพิ่มสูงขึ้น และการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนในการเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดในการทำประมง หรือการทุจริตต่อหน้าที่ ทำให้ทางสหภาพยุโรปมีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทย ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายจากการต่อต้านประมง IUU เพื่อตัดวงจรมิให้ไปสู่ อาชญากรรมด้านการประมง (Fisheries Crime)ซึ่งเป็นการทำงานมาตรฐานระดับโลก

ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนไทย ยังได้เสนอให้มีการพิจารณาสถานการณ์ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในอนาคต อีกทั้งรัฐบาล ก็มีนโยบายป้องกันและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะที่ทางการสหภาพยุโรป ได้ให้ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากการหารือครั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทย มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้ประสานงานความร่วมมือกันทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้มากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายได้ในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การเดินทางมากรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยมของคณะผู้แทนไทยในครั้งนี้ ได้มีแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อคิดเห็น ประสบการณ์ในการทำงานแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ทำให้ผู้แทนของสหภาพยุโรปได้มีความเข้าใจในความมุ่งมั่นในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่องของไทย

รวมทั้งได้เห็นผลงานและความเปลี่ยนแปลงที่หน่วยงานไทย โดยจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายให้กับประเทศไทย เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศต่อไป