ธ.ก.ส.เหนือจัดทัพ จับมือ8,000ชุมชนต้นแบบลุย"แก้หนี้-แก้จน"

06 ก.ย. 2565 | 15:25 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2565 | 22:39 น.

ธ.ก.ส.จัดทัพสาขาลุยมหกรรม"แก้หนี้ แก้จน" เข้าดูแลลูกค้าในพื้นที่แบบครบวงจร ทั้งตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ แบ่งเบาภาระหนี้ ปรับโครงสร้าง ไกลีเกลี่ยหนี้ พร้อมการพัฒนาศักยภาพการประกอบอาชีพเดิม เสริมอาชีพใหม่ ใส่เทคโนโลยีและนวัตกรรมลดต้นทุนสร้างมูลค่าเพิ่ม

นายมาโนช บัวองค์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา ภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าธนาคารต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สงครามความขัดแย้ง ภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงมากขึ้น การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา-19 ที่ต่อเนื่อง ทำให้รายได้เกษตรกรลดลง บางรายหันไปพึ่งพาหนี้นอกระบบจนเป็นภาระหนัก 

 

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว ธ.ก.ส. จึงได้กำหนดแนวทางการเข้าไปดูแลลูกค้า โดยให้ ธ.ก.ส. ทุกสาขาบูรณาการการออกแบบ-การจัดการเชิงพื้นที่ “แก้หนี้ แก้จน” D&MBA : Design & Manage by Area ภายใต้แผนงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อจัดการและแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนโดยคนในชุมชน และเน้นการเชื่อมโยงกับหัวขบวนตามแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดกระบวนการผลิตการจ้างงาน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำจนถึงปลายน้ำ

ธ.ก.ส.เหนือจัดทัพ จับมือ8,000ชุมชนต้นแบบลุย\"แก้หนี้-แก้จน\"

ธ.ก.ส.เหนือจัดทัพ จับมือ8,000ชุมชนต้นแบบลุย\"แก้หนี้-แก้จน\"

โดยกระบวนการ 5 P เจาะลึกไปที่ 
    

1.Problem Based : ปัญหา/ความต้องการ โดยศึกษาสาเหตุที่แท้จริง เรียงลำดับความสำคัญของปัญหา กำหนดแนวทางแก้ไขโดยให้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง 

2.Possibility : ความเป็นไปได้/สมเหตุสมผล 

3.Potential : ศักยภาพของชุมชน หมายถึง ชุมชนที่เป็นเป้าหมาย จะต้องมีความพร้อมที่จะขับเคลื่อนแผนงานตามแนวทางที่ได้กำหนดร่วมกันของคนในชุมชน เช่น ความพร้อมของผู้นำหรือแกนนำชุมชน หัวขบวนขับเคลื่อนธุรกิจชุมชน เป็นต้น 
    

ธ.ก.ส.เหนือจัดทัพ จับมือ8,000ชุมชนต้นแบบลุย\"แก้หนี้-แก้จน\"

 

ธ.ก.ส.เหนือจัดทัพ จับมือ8,000ชุมชนต้นแบบลุย\"แก้หนี้-แก้จน\"

4,Participation : เน้นการมีส่วนร่วมคนในชุมชนรวมทั้งมีภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน เครือข่ายทางสังคม ให้การสนับสนุนการพัฒนา และ 

5.Purpose : เป็นเรื่องสำคัญ ที่คนในชุมชนได้รับประโยชน์ นี่คือหลักหรือแนวทางที่ผู้จัดการสาขา ธ.ก.ส. ทุกสาขาต้องไปออกแบบ เพื่อเข้าไปดูแลและร่วมแก้ไขปัญหาไปพร้อม ๆ กับชุมชน

 

นายมาโนช กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของเครื่องมือที่ ธ.ก.ส. เข้าไปสนับสนุน ประกอบด้วย การตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ในช่วงขาขึ้นขณะนี้ออกไปให้นานที่สุด เพื่อมิให้เป็นภาระต้นทุนกับลูกค้าในช่วงการฟื้นตัว การจูงใจให้ลูกค้ารักษาประวัติการชำระหนี้ที่ดีไว้ โดยดูแลในเรื่องผลตอบแทน ทั้งอัตราดอกเบี้ยที่คิดตามชั้นลูกค้า และการคืนเงินดอกเบี้ยเพื่อแบ่งเบาภาระผ่านโครงการชำระดีมีคืน จำนวน 2,000 ล้านบาท ให้กับลูกค้าที่ชำระหนี้ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2566 

 

การดูแลภาระหนี้สินเดิม เพื่อลดความกังวลใจในเรื่องหนี้ เช่น การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ให้ลูกค้าสามารถชำระหนี้ได้ตามศักยภาพ การไกล่เกลี่ยหนี้ การจัดทำคลินิกหมอหนี้ เพื่อลดหนี้ครัวเรือน การให้คำปรึกษาด้านการจัดการหนี้ ทั้งหนี้ในและนอกระบบ การพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพ เช่น การให้ความรู้ด้าน Financial Literacy/Digital Literacy  

 

การร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐเอกชน สถาบันการศึกษา ในการศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติเพิ่มทักษะ ทั้งอาชีพเดิม อาชีพเสริม อาชีพใหม่ การปรับเปลี่ยนการผลิตไปปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง การลดต้นทุนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต การยกระดับมาตรฐานสินค้า เป็นต้น  การเติมสินเชื่อใหม่ ภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนปรน เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการลงทุน เช่น สินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ สินเชื่อนวัตกรรมดีมีเงินทุน อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4 สินเชื่อแฟรนไชส์ สินเชื่อ Green Credit สินเชื่อ Contract Farming อัตราดอกเบี้ย MRR สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.01 เป็นต้น  

 

รวมถึงการสนับสนุนช่องทางด้านการตลาดในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นตลาดในระดับท้องถิ่น ตลาด Modern trade ตลาด E- Commerce ควบคู่การสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการประกันภัยทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์เงินฝาก สงเคราะห์ชีวิต กองทุนทวีสุข กองทุนเงินออมแห่งชาติ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ ในการดำเนินงานดังกล่าว ธ.ก.ส. ยึดหลักการพัฒนาชุมชนสู่ความยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่เน้นหนักในด้าน BCG Model เพื่อก้าวสู่การพัฒนาระดับสากลตามแนวทาง SDG โดยขับเคลื่อนผ่านชุมชนต้นแบบที่ธนาคารได้พัฒนาไว้แล้ว จำนวน 7,927 แห่ง   เพื่อมุ่งสู่ชุมชนอุดมสุขที่ยั่งยืน ทั้งด้านมิติ ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมประเพณี อาทิ   การปรับเปลี่ยนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม การส่งเสริมการปลูกพืชที่สร้างมูลค่าสูง การทำเกษตรกรรมยั่งยืน ชุมชนไม้มีค่า ส่งเสริมการลดการเผา การปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ชุมชนท่องเที่ยว

ธ.ก.ส.เหนือจัดทัพ จับมือ8,000ชุมชนต้นแบบลุย\"แก้หนี้-แก้จน\"

โดยในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา10.00 น. ธกส.สาขาสันกำแพง และสนจ.เชียงใหม่ ร่วมกับ ฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน จัดพิธีเปิดงานมหกรรม"แก้หนี้ แก้จน" พร้อมกันนี้อำเภอสันกำแพงได้ทำพิธีเปิดจุดลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ  โดยมีนายภิญโญ  พัวศรีพันธุ์  นายอำเภอสันกำแพง นายมาโนช บัวองค์  ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน นายรังสรรค์  บูรณธะนัง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน นายสนอง  ชัยชนะ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดเชียงใหม่ นายกลศาสตร์  เรืองแสน ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส.  จังหวัดเชียงใหม่ นายรณกร  ถิรัตตยศ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมด้วย ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลสันกำแพง (หอประชุมชั้น 2)ร่วมพบปะพูดคุยลูกค้าที่มีปัญหาค้างชำระ  และเยี่ยม Mobile Unit สาขาสันกำแพง

ธ.ก.ส.เหนือจัดทัพ จับมือ8,000ชุมชนต้นแบบลุย\"แก้หนี้-แก้จน\"