รัฐเข้ม! ร้านธงฟ้า บัตรสวัสดิการรัฐ พบฉวยโอกาสส่งดำเนินคดีทันที

06 ก.ย. 2565 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2565 | 16:11 น.

รัฐบาลเอาจริง เตือนร้านธงฟ้า ห้ามฉวยโอกาสจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตรวจพบดำเนินคดีตามกฎหมายทันที เผยพฤติกรรมซ้ำแบบเดิม รับแลกวงเงินในบัตรฯเป็นเงินสด คิดค่าบริการกับลูกค้าโดยหักหัวคิว และจำหน่ายสินค้าในราคาสูงกว่าลูกค้าที่ชำระด้วยเงินสด

6 ก.ย. 2565 จากที่"ฐานเศรษฐกิจ"ได้นำเสนอข่าว "เชือด 121 ร้านธงฟ้า บัตรสวัสดิการรัฐ ฉวยโอกาสหักค่าหัวคิว " เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา 

 

ล่าสุด นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาย้ำเตือนถึงกรณีดังกล่าวว่า ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้า) บางแห่งยังมีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามตรวจสอบร้านธงฟ้าที่ถูกร้องเรียน และได้มีการเพิกถอนสิทธิร้านธงฟ้าไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 121 ราย

 

ผลการตรวจสอบพบการกระทำผิด ส่วนใหญ่มีพฤติกรรมรับแลกวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเงินสด คิดค่าบริการกับลูกค้าที่ชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (หักหัวคิว) จำหน่ายสินค้าให้ผู้ใช้สิทธิคนละครึ่งในราคาสูงกว่าลูกค้าที่ชำระด้วยเงินสด และไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้า

นางสาวรัชดา ย้ำเตือนหากพบหลักฐานว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินคดีตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคา จำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท พร้อมกับฝากถึงร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ อย่าได้มีพฤติกรรมเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะหากถูกร้องเรียนและตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

 

ทั้งนี้ หากเป็นร้านธงฟ้าจะถูกเพิกถอนสิทธิการเป็นร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และถูกตัดสิทธิการรับชำระเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
 

“หากประชาชนพบเห็นร้านค้ามีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้บริโภค หรือทำผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงแจ้งเบาะแสการกระทำผิดผ่านช่องทางการส่งไปรษณีย์ลงทะเบียน ถึง“สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400” หรือส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล์) มายัง [email protected] ” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว