เผือกร้อน ถอด “สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย” ออกกรรมการ “รับรองพันธุ์ข้าว”

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้ทราบข่าวจากสื่อ ว่ากรมการข้าวมีการรับรองข้าวสายพันธุ์ใหม่ 4 สายพันธุ์แต่เรื่องนี้สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ไม่ทราบเรื่อง ทราบจากข่าวเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้รับเชิญจากกรมการข้าว และทราบข่าวว่าอธิบดีกรมการข้าวคนปัจจุบันเป็นประธานในที่ประชุม

ทั้งนี้ ขอเรียนให้ทราบว่าสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เป็นสมาคมหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับชาวนามีสมาชิกจำนวนมากกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ไม่ทราบมีความสำคัญน้อยกว่า สมาคมอื่นๆหรือไม่อย่างไร เรารู้สึกเมื่อท่านพยายามด้อยค่าสมาคมชาวนาฯหรืออย่างไร การเชิญหรือไม่เชิญเป็นเรื่องของท่าน

แต่ท่านอย่าลืมว่าชาวนาเป็นผู้ที่จะนำข้าวไปเพาะปลูก ชาวนาควรต้องรับรู้คุณสมบัติของข้าว และข้าวแต่ละชนิดเหมาะสมในการเพาะปลูกในแต่ละพื้นที่หรือไม่อย่างไร การทำหน้าที่ของท่านเหมาะสมหรือไม่  ท่านเชิญสมาคม ต่างๆเข้าประชุม และผู้ที่ได้รับเชิญเข้าประชุม มีกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ขาย เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ท่านกลับไม่เชิญชาวนาเข้าประชุม แล้วท่านจะให้ชาวนาปลูกข้าวที่ท่านรับรองมาได้อย่างสนิทใจอย่างไร

นายปราโมทย์ กล่าวอีกว่า  สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จึงมีคำถามไปยังกรมการข้าวว่าสรุปแล้วท่านทำพันธุ์ข้าวให้ใคร? ท่านมิได้ทำพันธุ์ข้าวให้ชาวนาแล้วหรือ?  หรือทำเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตัวเอง?   สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยต้องขอฝากไปยังผู้บังคับบัญชาของกรมการข้าว ให้ตรวจสอบอธิบดีกรมการข้าวคนปัจจุบัน ว่ายังเหมาะสมที่จะนั่งเป็นอธิบดีอยู่ไหม? 

เนื่องจากการกระทำแบบนี้สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยมองว่าไม่ชอบมาพากล และมีผู้แอบแฝงเกี่ยวกับผลประโยชน์ จากชาวนาหรือไม่? เพราะหน้าที่โดยตรงของกรมการข้าวคือต้องพัฒนาและวิจัยพันธุ์ข้าวให้ชาวนา แต่ตอนนี้ทำให้เกิดข้อกังขาว่าท่านทำเพื่อนายทุนหรือไม่?

หากผู้บังคับบัญชาของกรมการข้าว จะเป็นกระทรวงเกษตรก็ดี หรือจะเป็นใครก็ดีที่มีอำนาจสูงกว่ากรมการข้าว หากยังไม่ตั้งกรรมการตรวจสอบอธิบดีกรมการข้าว คนปัจจุบัน ภายใน 15 วัน ทางสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยจะทำเรื่องร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี เป็นลำดับต่อไป และหากมีกระบวนการไม่ชอบมาพากลจริง ทางสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ซึ่งมีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ ก็จำต้องเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาคุณสมบัติถอดถอนตำแหน่งอธิบดีกรมการข้าวคนปัจจุบันและหาผู้ดำรงตำแหน่งใหม่

เพื่อให้ทำงานตรงกับความต้องการของชาวนาทั้งประเทศมิใช่ทำเพื่อนายทุนหรือกลุ่มพวกพ้องของตนเองเท่านั้น “ชาวนาคือคนที่จะนำข้าวไปเพาะปลูก ควรที่จะต้องมีส่วนรับรู้หรือไม่ การที่ท่านไม่เชิญสมาคมชาวนาฯเป็นเรื่องของท่าน  ท่านรับรองพันธ์ุไปให้ใคร และใครควรรู้ สิ่งที่ท่านทำเหมาะสมหรือไม่ ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่านควรทำอย่างไร”

ขณะที่ นายกฤษ อุตตมะเวทิน โฆษกกรมการข้าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา กรมการข้าวได้มีการพิจารณารับรองพันธุ์ข้าวใหม่จำนวน 4 พันธุ์ ได้แก่ กข93 กข95 กข97 และ กข101 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้แทนคณะกรรมการกลางศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ ผู้แทนสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ผู้แทนสมาคมค้าข้าวไทย ผู้แทนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ผู้แทนสมาคมโรงสีข้าวไทย ผู้แทนกรมการค้าภายใน ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ รวมไปถึงผู้ทรงคุณวุฒิด้านข้าว ตลอดจนผู้บริหารกรมการข้าว ร่วมเป็นกรรมการในการพิจารณารับรองพันธุ์ข้าวในครั้งนี้

ในการประชุมพิจารณารับรองพันธุ์ข้าวในแต่ละปีนั้น จะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผู้แทนจากภาคส่วนต่างๆ รวมไปถึงผู้แทนจากสมาคมต่างๆด้านข้าว ให้เข้ามาร่วมพิจารณาพันธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความหลากหลาย และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องด้านข้าวและใกล้ชิดกับพี่น้องชาวนา ได้มีส่วนร่วมในการพิจารณารับรองพันธุ์ข้าวในแต่ละปี ซึ่งรวมไปถึงสมาคมต่างๆด้านข้าวที่เปรียบดั่งภาคีเครือข่ายที่กรมการข้าวได้มีการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด

ที่ประกอบด้วย สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมชาวนาชาวไร่ สมาคมชาวนาอีสานสมาคมชาวนาและโรงสี สมาคมศูนย์ข้าวชุมชน(ประเทศไทย) สมาคมเกษตรกรไทย สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก สมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง สมาคมเครือข่ายชาวนาไทย และสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย

"กรมการข้าวเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลด้านข้าว มีเป้าหมายเพื่อยกระดับให้พี่น้องชาวนามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยหนึ่งในภารกิจหลักคือการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อให้ได้พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง มีคุณภาพ ต้านทานต่อโรคแมลง และที่สำคัญคือตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องชาวนา ดังนั้นเพื่อเป็นการสนองเจตนารมณ์ดังกล่าว กรมการข้าวจึงปฏิบัติภารกิจอย่างสุจริต โปร่งใส โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของพี่น้องชาวนาเป็นลำดับแรก ให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง" โฆษกกรมการข้าว กล่าว