ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก ตลาดไหนรุ่งตลาดไหนร่วง

02 ส.ค. 2565 | 02:50 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ส.ค. 2565 | 08:03 น.
1.1 k

ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก “สหรัฐฯ อาเซียน CLMV เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา อินเดีย”ยังเป็นโอกาสทองของส่งออกไทย ขณะที่ จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย ลุ้นเศรษฐกิจ-สงครามรัสเซียคลี่คลาย

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับครึ่งปีแรกของภาคการส่งออกไทย เครื่องจักรเดียวที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด แต่ส่งออกไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่องโดยภาพรวมครึ่งแรกของปี 2565 (มกราคม-มิถุนายน) ไทยส่งออก มีมูลค่า 149,184.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวถึง 12.7%

ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก  ตลาดไหนรุ่งตลาดไหนร่วง

แม้ว่าจะขยายตัวลดลงแต่มูลค่าการส่งออกกลับเพิ่มขึ้นจากปี2564ที่มีมูลค่า132,354ล้านดอลลาร์สรัฐ แต่การนำเข้ากลับมีมูลค่าสูงขึ้น 155,440.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 21% ส่งผลให้6เดือนไทยดุลการค้าขาดดุล 6,255.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

 

ทั้งนี้ตลาดส่งออกสำคัญๆของไทยภาพรวมยังขยายตัวได้ดีในหลายตลาด ตามคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าที่ยังมีต่อเนื่อง ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงจากผลกระทบของความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ และอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น แต่มีเพียงการส่งออกไปจีนและญี่ปุ่นยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังซบเซาจากผลกระทบของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวด

ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก  ตลาดไหนรุ่งตลาดไหนร่วง

ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆแบ่งออกเป็น 3 ตลาด คือ “ตลาดหลัก” ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ อาเซียน(5) CLMV ยุโรป จีน และญี่ปุ่น  “ตลาดรอง” ประกอบด้วย  เอเชียใต้ ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา รัสเซียและกลุ่มCIS  และ “ตลาดอื่นๆ” เช่นสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้สรุปได้ดังนี้

ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก  ตลาดไหนรุ่งตลาดไหนร่วง

ตลาดหลัก ในช่วง6เดือน ขยายตัว11.5% หรือมีมูลค่า 103,943ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ   โดยขยายตัวต่อเนื่องในตลาดดังนี้

  • ตลาดสหรัฐฯ 20.5% มูลค่า24,004ล้านดอลลาร์สหรัฐ  
  • ตลาดอาเซียน (5) 25% มีมูลค่า21,521ล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยไทยส่งออกไปมาเลเซียสูงสุดมีมูลค่า6,435ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือขยายตัว9.8% รองลงมาเป็นอินโดนีเซีย ขยายตัว 38%มีมูลค่า5,623ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น
  • ตลาดCLMV 9.9% มูลค่า15,773ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเวียดนามสูงสุดมีมูลค่า6,707ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัว0.1% รองลงมาเป็นกัมพูชา มีมูลค่า4,210ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว21% เป็นต้น
  • ตลาดสหภาพยุโรป (27) ขยายตัว10.4% มีมูลค่า42,030ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  •  ตลาดจีน เนื่องจากรัฐบาลจีนยังคงมีนโยบายซีโร่โควิดและยังไม่เปิดประเทศรวมถึงปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศส่งผลให้6เดือนไทยส่งออกไปตลาดจีนมีมูลค่า18,453ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว0.8%
  • ตลาดญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ไทยส่งออกไปในช่วง6เดือนมีมูลค่าลดลงโดยมีมูลค่า12,714ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวเพียง1.4%เท่านั้น

ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก  ตลาดไหนรุ่งตลาดไหนร่วง

ตลาดรอง ภาพรวมขยายตัว42,030ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ10.4%ซึ่งขยายตัวในตลาดดังนี้

  • ตลาดเอเชียใต้ 6เดือนขยายตัว 7,301ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ35.7% โดยอินเดียไทยส่งออกไปสูงสุดถึง5,606ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ46.6%  ส่วนตลาดที่ส่งออกติดลลคือฮ่องกง ซึ่งมีมูลค่า5,547ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือติดลบ1.9%
  • ทวีปออสเตรเลีย 6เดือนขยายตัวติดลบ3.2%หรือมีมูลค่า6,503ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ตลาด ตะวันออกกลาง 6เดือนขยายตัว21.5%หรือมีมูลค่า5,279ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปซาอุดิอาระเบียขยายตัวเพิ่มขึ้น10.8% หรือมีมูลค่า934ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ตลาดทวีปแอฟริกา 6เดือนขยายตัว5.1%หรือมีมูลค่า3,362ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ตลาดลาตินอเมริกา 6เดือนขยายตัว9.4%หรือมีมูลค่า4,648ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ตลาดรัสเซียและกลุ่ม CIS 6เดือนขยายตัวติดลบมากถึง34.4%หรือมีมูลค่า396ล้านดอลลาร์สรัฐ โดยไทยส่งออกไปรัสเซียติดลบถึง36%หรือมีมูลค่า292ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 และ (3) ตลาดอื่น ๆ 6เดือนขยายตัวถึง205% หรือมีมูลค่า3,210ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยขยายตัวถึง319% หรือมีมูลค่า2,776ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก  ตลาดไหนรุ่งตลาดไหนร่วง

          ทั้งนี้สินค้าสำคัญของไทยที่ยังขยายตัวในตลาดสหรัฐ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และส่วนประกอบ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม เป็น

  • ตลาดอาเซียน (5)) สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ อากาศยานและส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำตาลทราย และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น
  •  ตลาด CLMV สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำตาลทราย ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ และเม็ดพลาสติก เป็นต้น
  • ตลาดสหภาพยุโรป (27) 0 สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ไก่แปรรูป และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น

  ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก  ตลาดไหนรุ่งตลาดไหนร่วง

  •  ตลาดเอเชียใต้ สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ อัญมณีและเครื่องประดับ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น
  • ตลาดทวีปออสเตรเลีย สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ อากาศยานและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว และผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
  •   ตลาดตะวันออกกลาง สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น
  • ตลาดทวีปแอฟริกา สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น
  • ตลาดลาตินอเมริกา สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น

ส่องตลาดส่งออกสำคัญของไทยครึ่งปีแรก  ตลาดไหนรุ่งตลาดไหนร่วง

ส่วนตลาดจีน สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ผลิตภัณฑ์ยาง และทองแดงและของทำด้วยทองแดง เป็นต้น

ตลาดญี่ปุ่น สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และยางพารา เป็นต้น

ตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS สินค้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เป็นต้น สินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น