จับตาราคาน้ำมันครึ่งปีหลัง แรงกดดันเงินเฟ้อจะลดลง

16 ก.ค. 2565 | 06:00 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2565 | 13:43 น.
1.1 k

“กอบศักดิ์” ชี้ เริ่มมีสัญญาณที่ดีในตลาดพลังงาน ซึ่งตีความได้ว่า สถานการณ์พลังงานโลกในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มคลี่คลาย ราคาน้ำมันโลกอาจจะไม่พุ่งแรงเหมือนช่วงครึ่งปีแรก ความวิตกที่ว่าราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยกดดันเงินเฟ้อให้พุ่งไปเรื่อย ๆ จึงน่าจะคลี่คลายลงไปบ้าง

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แสดงความเห็นผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว วานนี้ (15 ก.ค.65 ) ตั้งข้อสังเกตว่า ราคาน้ำมันโลก ได้เริ่มปรับลดลงจนกระทั่งวันนี้ ราคาน้ำมันได้กลับมาที่จุดเริ่มต้นก่อนเกิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน หมายความว่า สิ่งที่ทุกคนกังวลใจว่า ราคาน้ำมันโลกจะเป็นปัจจัยกดดันให้ เงินเฟ้อโลก พุ่งไปเรื่อย ๆ ขณะนี้ได้คลี่คลายลงไปบ้างแล้ว และหากราคาน้ำมันโลกไม่ขึ้นสูงไปเช่นเดิม ยังวิ่งอยู่ที่ประมาณ 100 ดอลลาร์/บาเรล แรงกดดันต่อเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ก็จะค่อยๆ ลดลง

 

ภาพประวัติศาสตร์

เริ่มกลับไปที่เดิม !!!!  ข่าวดี  !!!!

หลังราคาน้ำมันโลกได้พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด หลังเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ไปอยู่ที่ 130-140 ดอลลาร์/บาเรล

ทำให้หลายๆ คนกังวลใจว่าจะเกิดปัญหา Stagflation นั้น

มาถึงวันนี้ ราคาน้ำมันโลกได้ลดลง กลับมาที่จุดเริ่มต้นก่อนเกิดสงครามอีกครั้ง

ราคาน้ำมัน Brent ต่ำสุดวันนี้ที่ 94.5 ดอลลาร์/บาเรล

ราคาน้ำมัน WTI ต่ำสุดวันนี้ที่ 90.56 ดอลลาร์/บาเรล

ต่ำกว่าระดับจุดเริ่มต้น !!!

ก่อนปรับตัวขึ้น

สะท้อนว่า ราคาน้ำมันโลกขึ้นได้ ก็ลงได้เช่นกัน

และหมายความต่อไปว่า สิ่งที่ทุกคนกังวลใจ "ราคาน้ำมันโลกจะเป็นปัจจัยกดดันให้เงินเฟ้อโลกพุ่งไปเรื่อย ๆ" ตอนนี้ได้คลี่คลายไปบ้างแล้ว

ภาวะความไม่สมดุลระหว่าง Supply และ Demand ในตลาดน้ำมันโลก เริ่มดีขึ้น

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การที่น้ำมันของรัสเซียซึ่งถูก Sanctions จากสหรัฐและพันธมิตร ได้ถูกส่งไปประเทศอื่นๆ แทนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย และตะวันออกกลาง ทำให้ปริมาณน้ำมันส่งออกในโลกกลับเป็นปกติมากขึ้น และจากความกังวลใจว่าจะเกิด Global Recession ในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดความต้องการใช้น้ำมันลง

ราคาน้ำมันเริ่มปรับสู่ระดับก่อนเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะราคาน้ำมันโลกเป็นต้นตอหลักของเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา

 

ถ้าราคาน้ำมันปรับตัวดีขึ้น การ Peak ของเงินเฟ้อก็จะตามมาในช่วงต่อไป

 

มาลุ้นกันนะครับว่า ราคาน้ำมันโลกในครึ่งหลังของปี จะปรับขึ้นไปสูงเหมือนช่วงแรกของสงครามอีกรอบ ได้หรือไม่

 

หากราคาน้ำมันโลกไม่ขึ้นสูงไปเช่นเดิม ยังวิ่งอยู่ที่ประมาณ 100 ดอลลาร์/บาเรล แรงกดดันต่อเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ ในครึ่งหลังของปีก็จะค่อยๆ ลดลง

 

สงครามของเฟดกับเงินเฟ้อก็จะบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น

ซึ่งในเรื่องนี้ หากไม่มีอะไรพลิกผันจนเกินไป คงต้องบอกว่า

สถานการณ์ตลาดน้ำมันโลกในช่วงครึ่งหลังของปี จะต่างจากช่วงครึ่งแรก

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ

 

(1) รัสเซียเริ่มมีช่องทางในการขายน้ำมัน เมื่อเทียบกับช่วงแรก ๆ ที่น้ำมันจากรัสเซียหายไปจากตลาด ต้องไปหาจากแหล่งอื่นๆ แทน ทำให้เกิด Energy Price Shock

 

การที่รัสเซียส่งออกน้ำมันได้ คือจุดเปลี่ยน ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยบรรเทาสถานการณ์พลังงานโลก

 

(2) การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ ทำให้โอกาสการเกิด Global Recession เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เรื่องนี้จะทำให้นักลงทุนไม่กล้าเก็งกำไรในราคาน้ำมันโลกมากเหมือนช่วงแรก ๆ  

 

เรื่องนี้ก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดพลังงานโลก เพราะเมื่อนักลงทุนไม่กล้าเก็งกำไรกันเต็มที่ ราคาน้ำมันต่อให้ขึ้น ก็คงขึ้นได้ไม่เท่าช่วงแรก ๆ ครับ

 

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ