ฟันขบวนการ สวมใบรับรองทุเรียนด้อยคุณภาพส่งออกจีน

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรโดยด่านตรวจพืชมุกดาหารได้สกัดรถตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งทุเรียนที่เตรียมส่งออกไปจีน จำนวน 2 คัน มูลค่ากว่า 2,016,000 บาท ภายหลังจากได้รับแจ้งจากด่านตรวจพืชจันทบุรี ที่เข้าตรวจสอบทุเรียนล็อตดังกล่าว ณ โรงคัดบรรจุแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี พบสิ่งผิดปกติจึงประสานให้ด่านตรวจพืชมุกดาหารซึ่งเป็นด่านที่ออกใบรับรองสุขอนามัยพืชรับทราบและตรวจสอบอีกครั้ง

จากการเข้าตรวจสอบของด่านตรวจพืชมุกดาหาร ซึ่งได้รับคำขอใบรับรองสุขอนามัยพืช เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2565 จำนวนทุเรียน 2 ตู้ๆ ละ 960 กล่อง น้ำหนักรวม 34,560 กิโลกรัม แต่ภายหลังการสุ่มตรวจโดยด่านตรวจพืชมุกดาหาร พบว่าทั้ง 2 ตู้ บรรจุทุเรียนน้อยกว่าที่แจ้งไว้ตามเอกสาร โดยบรรจุตู้ละ 471 กล่อง และ 472 กล่องเท่านั้น ที่สำคัญยังพบทุเรียนที่มีเพลี้ยแป้งและราดำ ผลทุเรียนด้อยคุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐานการส่งออก บรรจุภัณฑ์บางส่วนอยู่ในสภาพเหมือนถูกใช้ซ้ำปะปนอยุ่กับบรรจุภัณฑ์ใหม่

อีกทั้งสติกเกอร์ที่ติดขั้วผล และสติกเกอร์ที่ติดข้างบรรจุภัณฑ์ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในพิธีสารไทย-จีน มีข้อความสำแดงไม่ตรงตามเอกสารที่แจ้ง ดังนั้นด่านตรวจพืชมุกดาหารจึงปฏิเสธการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช  และแจ้งให้ตัวแทนผู้ส่งออกรับทราบ ผู้ส่งออกจึงได้มีหนังสือถึงหัวหน้าด่านตรวจพืชจันทบุรี เพื่อขอคืนตู้สินค้าดังกล่าวกลับไปยังโรงคัดบรรจุต้นทาง

โดยอ้างว่าไม่ได้ตรวจสอบสินค้าก่อนบรรจุตู้ และทางบริษัทไม่ประสงค์ขอใบรับรองสุขอนามัยพืช จากนั้นด่านตรวจพืชมุกดาหารจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร ทั้งนี้การสุ่มตรวจดังกล่าวเป็นไปตามมาตรการการตรวจสอบรับรองและการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชเพื่อส่งออกผลทุเรียนไปสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทุเรียนไทยคุณภาพดีและมีมาตรฐาน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้เน้นย้ำ นโยบายท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านมนัญญา ไทยเศรษฐ์  โดยสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรที่ปฏิบัติงาน ณ ด่านตรวจพืช เน้นย้ำการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึง สารตกค้าง และแมลงศัตรูพืชในผักและผลไม้ รวมถึง การเฝ้าระวังและตรวจสอบการบรรจุทุเรียนในตู้ให้ครบตามจำนวนที่แจ้ง เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ทุเรียนด้อยคุณภาพจากแหล่งผลิตที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร