ตัดอำนาจผู้ว่าฯ เปิดทางสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน อนุมัติแจกที่ดินทำกินป่าสงวน

27 มิ.ย. 2565 | 15:56 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2565 | 23:21 น.

ที่ประชุม คทช. ไฟเขียวตัดอำนาจผู้ว่าฯ เปิดทางสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ขอใช้ประโยชน์การอยู่อาศัยและทำกินในป่าสงวนแห่งชาติได้ แต่ต้องผ่านหลักเกณฑ์กรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมสั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่ง ปรับปรุงแผน One Map ให้ชัด

นางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม คทช. ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันนี้ เห็นชอบหลักการการปรับเปลี่ยนให้ผู้ขอใช้ประโยชน์การอยู่อาศัยและทำกินในป่าสงวนแห่งชาติ จากผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือกลุ่มเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ที่จัดที่ดินทำกินให้ชุมชน 

 

ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามภายใต้เงื่อนไข และข้อกำหนดการใช้ที่ดินและแนวทางปฏิบัติของกรมป่าไม้ มาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และการชำระค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งดำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินความเข้มแข็งของสหกรณ์

 

นางรวีวรรณ กล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นการยกระดับในการอนุญาตให้กับสหกรณ์ หรือวิสาหกิจชุมชน สามารถเป็นผู้ขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ คทช. แทนผู้ว่าราชการจังหวัดได้ โดยต้องผ่านหลักเกณฑ์ตามที่กรมส่งเสริมสหกรณ์กำหนด โดยจะมีการตรวจประเมิน ถ้าผ่านเกณฑ์แล้ว พื้นที่ของคทช.ที่มีความพร้อมก็สามารถยื่นเรื่องมายังคทช.จังหวัด เพื่อเป็นผู้รับหนังสืออนุญาตแทนผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไปได้

 

นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)

ขณะเดียวกันที่ประชุมคทช. ยังเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลนชุมชนเมืองระนอง จังหวัดระนอง ตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เห็นชอบ และมอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับไปดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเสนอครม.ไป

 

รวมทั้งเห็นชอบการเสนอเรื่องต่อครม. ให้กรมป่าไม้ส่งมอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม “ป่าสวนเมี่ยง”เนื้อที่ประมาณ 361 ไร่ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนำไปดำเนินการตามกฎหมายการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้แก่สมาชิกสมาคมทหารผ่านศึกพิการแห่งประเทศไทย และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอครม.ต่อไป

 

นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)

 

พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังมอบหมายหน่วยงานไปดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด และพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ให้มีรายละเอียดครบถ้วนยิ่งขึ้น ดังนี้

  • พื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ตราด นครนายก นครสวรรค์ ระยอง (ยกเว้นกรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง) ลพบุรี ศรีสะเกษ และจังหวัดสระบุรี
  • พื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ปราจีนบุรีเพชรบูรณ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เลย สระแก้ว สุรินทร์ และจังหวัดอุบลราชธานี

“นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายในที่ประชุมให้เร่งแก้ไขปัญหาในเรื่องแนวเขตที่ดินของรัฐทับซ้อนกันให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเน้นว่า การทำงานของกทช.ไม่ว่ากรณีของป่ารุกคนหรือคนรุกป่า การพิสูจน์สิทธิขอให้เน้นเรื่องความเป็นธรรมกับประชาชน โดยเฉพาะในกรณีที่พิสูจน์สิทธิแล้วอยู่หลังการเป็นที่ดินของรัฐ ก็ให้อยู่ในตะกร้าในพื้นที่ของคทช. โดยผ่านการกลั่นกรองของคทช.จังหวัด” นางรวีวรรณ กล่าว

 

นายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)

 

นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยมีความคืบหน้า ดังนี้ 

  • กำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว 1,483 พื้นที่ 70 จังหวัด 5,792,144 - 3 - 44.75 ไร่
  • ออกหนังสืออนุญาตแล้ว 356 พื้นที่ 1,123,171 - 3 - 64.82 ไร่ 
  • จัดคนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินแล้ว 73,809 ราย ใน 331 พื้นที่ 
  • ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแล้วใน 247 พื้นที่