ราคาน้ำมันWTI ร่วง1.8% ปิดที่104.27 ดอลล์ กังวลดีมานด์ชะลอหลังเฟดใช้ยาแรง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) หลังประธานธนาคารเฟด ยืนยันว่าเฟดจะเดินหน้าควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป ซึ่งอาจส่งผลให้ศก.สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 104.27 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค. 2565
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 110.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2565
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า เฟดมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากขณะนี้เงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างไรก็ดี นายพาวเวล ยอมรับว่าการดำเนินการของเฟดมีความเสี่ยงที่จะทำให้อัตราว่างงานสูงขึ้นด้วย
แอนดรู ลิโพว์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัทฮุสตันกล่าวว่า นักลงทุนวิตกกังวลว่าการที่เฟดส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยและทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงด้วย
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านอื่น ๆ นั้น บริษัทโรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐได้เข้าพบนางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีพลังงานสหรัฐที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวอเมริกันในขณะนี้
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้เลื่อนการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จากเดิมที่มีกำหนดรายงานในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย. โดย EIA ระบุว่าเป็นผลจากปัญหาด้านระบบ และยังไม่ได้แจ้งกำหนดเวลาใหม่ที่จะรายงานข้อมูลดังกล่าว