“ปองพล” จับมือหอการค้าไทย ดึงนักธุรกิจญี่ปุ่น-ซาอุฯ ลงทุนนิคมใหม่

เดินหน้าผลักดันนิคมอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูปอุบลราชธานี เเห่งเเรกของภาคอีสานตอนล่าง  ล่าสุดนายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการบริษัท อุบลราชธานี อินดัสตรี้ จำกัด เข้าพบปะนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยเเละสภาหอการค้าเเห่งประเทศไทยเพื่อหารือถึงโอกาสเเละความร่วมมือในการที่จะเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจากประเทศต่างๆ มาลงทุน

นายปรพล อดิเรกสาร กล่าวว่า การเข้าพบนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยเเละสภาหอการค้าเเห่งประเทศไทย และนายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ในครั้งนี้เพื่อเเนะนำโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานี ที่จะเน้นด้านอาหารเเละสินค้าเกษตรเเปรรูปเเห่งเเรกของภาคอีสานตอนล่าง

พร้อมหารือถึงโอกาสเเละความร่วมมือในการที่จะเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ จากประเทศต่างๆ มาลงทุนในนิคมโดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นเเละประเทศซาอุดิอาระเบีย ภายใต้การสนับสนุนของสภาหอการค้าเเห่งประเทศไทย ต่อไป

ทั้งนี้โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอุบลราชธานีจะเกิดขึ้นอีก 3-4 ปีข้างหน้า เพื่อต้องการดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามากระตุ้นให้เกิดการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยพื้นที่นี้เหมาะสมกับตลาดแรงงานด้านการเกษตร มีทำเลที่เหมาะสมในการทำการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจสามเหลี่ยมมรกต

ขณะนี้พุ่งเป้าไปที่นักลงทุนชาวญี่ปุ่น ที่มีความสนใจร่วมทุน ผลิตสินค้าด้านการเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป เพราะช่วงที่ผ่านมาญี่ปุ่น กำลังมองทิศทางการลงทุนทางด้านอีสานตอนล่างของไทยด้วย เพราะฝั่งนี้ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคงทางชายเเดนเหมือนฝั่งตะวันตกเเละยังมีการคมนาคมขนส่งที่สะดวกสามารถเชื่อมไปยังท่าเรือดานัง ของเวียดนามได้

นายปรพล กล่าวอีกว่า ประธานกรรมการหอการค้าไทย ระบุว่า ช่วงวันที่ 4-7 กรกฎาคม 2565 จะมีคณะนักธุรกิจจากซาอุดิอาระเบียเดินทางมาเยือนไทย ซึ่งทางหอการค้าไทยได้ให้คำแนะนำกับทางคณะผู้บริหารนิคม ว่า สามารถนำโครงการไปนำเสนอ เพื่อเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาเยี่ยมชมที่ตั้งของโครงการนี้

ซึ่งทางซาอุดิอาระเบีย ก็มีความสนใจ อยู่เเล้วเนื่องจากไทยมีความพร้อมเเละมีศักยภาพด้านการผลิตอาหาร ป้อนตลาดซาอุฯ พร้อมมองว่า น่าจะเป็นประโยชน์ ทั้งนี้ ถ้าหากทางซาอุดิอาระเบียสนใจ ทางบริษัทก็ยินดีที่จะเชิญไปเยี่ยมชมที่ตั้งโครงการนี้ ที่จังหวัดอุบลราชธานีด้วย เพื่อชี้ให้เห็นว่าทางโครงการ เเละพื้นที่ มีความพร้อมทางด้านการผลิตอาหารในการรองรับตลาดที่ซาอุดิอาระเบียต่อไป