เฮ! รัฐบาลเล็งต่ออายุ 10 มาตรการลดค่าครองชีพ นัดถกทีมเศรษฐกิจหาข้อสรุป

24 พ.ค. 2565 | 17:28 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ค. 2565 | 00:35 น.
3.9 k

“สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” เตรียมถกหน่วยงานเศรษฐกิจต้นเดือนมิถุนายน นี้ เล็งพิจารณาต่ออายุ 10 มาตรการลดค่าครองชีพเพิ่มเติม หลังจากทุกมาตรการจะสิ้นสุดอายุในเดือนกรกฎาคม นี้ ไปฟังข้อมูลชัดจากรองนายกรัฐมนตรี กันว่าจะทำต่อยังไง

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2565 นี้ จะนัดหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจมาหารือมาตรการลดค่าครองชีพ ซึ่งได้ออกไปแล้ว 10 มาตรการว่า จะพิจารณาต่ออายุมาตรการเดิม หรือเพิ่มมาตรการใหม่ขึ้นมา

 

ทั้งนี้ในการหารือจะเชิญหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาหารือถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ สถานะทางการคลัง การเติบโตของเศรษฐกิจที่ตอนนี้เริ่มขยับตัวดีขึ้น การจัดเก็บรายได้ รวมทั้งช่องว่างทางการคลังที่จะมาช่วยประคับประคองประชาชนอย่างไรในช่วงต่อจากนี้

 

“ตอนนี้แนวโน้มราคาพลังงานมีความผันผวนมาก จึงต้องดูผลกระทบต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจ โดยหลังเดือนมิถุนายน นี้ ต้องมาดูว่าจะมีมาตรการอะไรเพิ่มเติม เพราะว่าสถานการณ์การคว่ำบาตรจากสงครามยูเครน และรัสเซียคงยืดเยื้อออกไป และในเดือนกรกฎาคม นี้ มาตรการต่าง ๆ จะสิ้นสุดแล้ว จึงต้องหารือเพื่อเตรียมการเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ยังมีเวลาที่จะดูว่าสามารถที่จะเพิ่มเติมมาตรการอะไรได้บ้าง” นายสุพัฒนพงษ์ ระบุ

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า การหารือจะดูให้ครบทุกมิติ ส่วนมาตรการที่จะออกมานั้น ก็ต้องแม่นยำ เพราะปัจจุบันเรายังอยู่ในวิกฤติ ดังนั้นการจะทำก็ต้องดูให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยอาจเป็นการต่ออายุมาตรการเดิมใน 10 มาตรการที่รัฐบาลออกมา หรือเพิ่มมาตรการใหม่ขึ้นมาก็ได้

 

อย่างไรก็ตามยอมรับว่า แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ต้องจับตาราคาพลังงานอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ยังมีแนวโน้มผันผวน เช่นเดียวกับวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เป็นต้นทุนก็ปรับราคาขึ้น ทั้งเหล็ก และข้าวสาลี จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

ขณะที่การช่วยเหลือในปัจจุบันนั้น ตอนนี้ยังมีเรื่องการช่วยเหลือผู้ที่ใช้น้ำมันเบนซินอยู่แล้ว จะมีเพิ่มเติมหรือไม่ ยืนยันว่า ตอนนี้ก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยขอดูในภาพรวม และสาเหตุก่อนว่าทำไมตอนนี้ราคาถึงขยับเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด