“กสิกรไทย”จับมือ “หัวเว่ย” จัดอีก 2 พันล้านดอกเบี้ย 0% ดันโซลาร์รูฟท็อป 150 MW

21 พ.ค. 2565 | 08:39 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2565 | 15:55 น.

ตลาดโซลาร์รูฟท็อปตอบรับแรง กสิกรไทย จัดสรรสินเชื่อดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือนอีก 2,000 ล้าน หลังมีลูกค้ายื่นขอทะลุเป้า 3,000 ล้านบาท คาดปีนี้มีผู้ติดตั้งราว 3 หมื่นหลังคาเรือน ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.65 แสนตัน จับมือหัวเว่ย มุ่งสร้างสังคมสีเขียว หนุน Green ecosystem แบบครบวงจร

 

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารกสิกรไทยได้มีโครงการ GO GREEN Together เพื่อสนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้รับเหมาติดตั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์เซล เจ้าของที่อยู่อาศัย พิเศษดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี และสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ผ่อนนานสูงสุด 8 ปี ซึ่งตั้งแต่เปิดโครงการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 

 

ที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้วงเงินสินเชื่อเกี่ยวกับโครงการนี้ที่ตั้งไว้ 3,000 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว

 

 

ดังนั้น ในปีนี้จึงได้จัดสรรสินเชื่อเกี่ยวกับโครงการนี้เพิ่มขึ้นอีก 2,000 ล้านบาท รวมเป็น 5,000 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าตลาดโซลาร์รูฟท็อปในปีนี้ภาคธุรกิจ จะมีการติดตั้งเพิ่มขึ้น 125.9 เมกะวัตต์ เติบโต 54.2% จากปีก่อน

 

รวมถึงในภาคครัวเรือนเติบโตขึ้นจากโครงการบ้านที่อยู่อาศัยใหม่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และผู้บริโภคให้ความสนใจมากขึ้น จากกระแสรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มของค่าไฟที่สูงขึ้น ที่บ้านหนึ่งหลังติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ขนาด 5 KW จะลดค่าไฟได้ประมาณ 36,500 บาทต่อปี

 

 

 

ทั้งนี้ การสนับสนุนสินเชื่อโครงการดังกล่าว คาดว่าจะช่วยให้มีที่อยู่อาศัยที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ขนาด 5 KW ในปี 2565 ได้ราว 3 หมื่นหลังคาเรือน หรือราว 150 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 265,000 ตัน หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 33 ล้านต้น

 

 อีกทั้งล่าสุด ทางธนาคารกสิกรไทยได้จับมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดดิจิทัลพาวเวอร์ และมีเครือข่ายผู้ติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง จะร่วมกันผลักดันให้เกิด Green Ecosystem ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแก่ผู้รับเหมา เจ้าของที่อยู่อาศย และเจ้าของธุรกิจ เพื่อการลดคาร์บอนเป็นศูนย์ตามเป้าหมายของประเทศ

 

นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการผสมผสานจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย ในการส่งเสริมสร้างสังคมสีเขียวในประเทศไทย ด้วยจุดแข็งของหัวเว่ยในด้านการเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม

 

โดยเฉพาะพลังงานดิจิทัล บวกกับความเป็นผู้นำด้านการเงินของธนาคารกสิกรไทย จะช่วยส่งมอบโซลูชั่นทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว กระตุ้นตลาดโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย  รวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคที่สนใจการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในภาคครัวเรือน ด้วยข้อเสนอหรือการผ่อนชำระพิเศษของธนาคารกสิกรไทย

 

ปัจจุบันมีจำนวนครัวเรือนในประเทศไทยที่หันมาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ามากขึ้น โดยเทรนด์ตลาดบ่งชี้ว่าน่าจะมีการติดตั้งหลังคาโซลาร์เซลล์มากถึง 80,000 ครัวเรือนหรือราว 400 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565 เพราะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า มีระยะเวลาการคืนทุน (Payback Period) ประมาณ 5 ปี

 

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อลดอัตราการปล่อยคาร์บอนสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการแบบ E2E ลงกว่า 80% เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีประสิทธิภาพเท่ากัน และยังมีเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้สามารถใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นถึง 2.7 เท่า โดยหัวเว่ยได้ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาบริการเชิงนวัตกรรมด้านดิจิทัลพาวเวอร์  ทำให้สามารถใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงไปได้ถึง 230 ล้านตัน 

 

อนึ่ง ผู้ที่สนใจในธุรกิจสีเขียว สามารถติดตามทิศทางการลงทุน และทิศทางสนับสนุนการดำเนินงานของประเทศไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้ในงานสัมมนา TEA FORUM 2022 “Mission Possible : Energy Transition to the Next 2050” จัดโดยกระทรวงพลังงาน สถาบันวิทยาการพลังงาน พบกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในปาฐกถาพิเศษหัวข้อ  “บทสรุปทิศทางของประเทศไทยสู่ Green Energy & Economy”

 

พร้อมเป้าหมายและความท้าทายจากประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันระดับโลก ใน Exclusive Interview H.E. Dr. Mohammed bin Hamad Al Rumhy, Minister of Energy and Minerals, Ministry of Energy and Minerals, Sultanate of Oman และแผนพลังงานชาติ สู่เป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก( Net Zero) จากนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในวันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 เวลา 12.30 เป็นต้นไป ณ ห้อง Synergy Hall ชั้น 6 อาคาร Enco C สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.thansettakij.com/seminar/teaforum2022