ยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 3 เดือนเพิ่มขึ้น 9.3% รับเศรษฐกิจโลกฟื้น

03 พ.ค. 2565 | 15:02 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ค. 2565 | 22:03 น.

ยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 3 เดือนเพิ่มขึ้น 9.3% รับเศรษฐกิจโลกฟื้น กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 13.4% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์(Jet A1) เพิ่มขึ้น 55.6% เบนซินลดลง 5.7%

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.3% เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว

 

โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 13.4% ,น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์(Jet A1) เพิ่มขึ้น 55.6% ,น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 18.4%  ,LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 ,การใช้ NGV เพิ่มขึ้น 1.9%

 

อย่างไรก็ตาม การใช้กลุ่มเบนซินลดลง 5.7% และน้ำมันก๊าดลดลง 7% 

 

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.32 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 6.88 ล้านลิตร/วัน 15.21 ล้านลิตร/วัน 5.70 ล้านลิตร/วัน และ 0.57 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.96 ล้านลิตร/วัน

นอกจากนี้ หากพิจารณาการใช้กลุ่มเบนซินเฉพาะเดือนมีนาคม 2565 เทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่า การใช้ลดลง 6.2% เนื่องจากราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินอยู่ในระดับสูง โดยราคาแก๊สโซฮอล์ปรับสูงขึ้น 10-13%

 

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 76.25 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 64.73 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 61.9% 

 

น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 3.49 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.21 ล้านลิตร/วัน การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และการตรึงราคาให้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

 

ยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 3 เดือนเพิ่มขึ้น 9.3%

 

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.19 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า-ออกประเทศ โดยมาตรการ Test & Go ได้เปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากระงับตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 โดยต้องตรวจ COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง 

และต้องมีหลักฐานการจองโรงแรมที่พัก นอกจากนี้ มาตรการ Test & Go เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ได้เปลี่ยนการตรวจหาเชื้อจากวิธี RT-PCR เป็น ATK และไม่ต้องจองโรงแรม ในการตรวจครั้งที่ 2 พร้อมทั้งลดวงเงินประกันเป็นไม่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ 

 

อย่างไรก็ดี สถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ยังคงส่งผลให้การใช้น้ำมัน Jet A1 อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ

 

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.48 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.53 ล้านกก./วัน ภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.08 ล้านกก./วัน และภาคขนส่งที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.99 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 7.3% สำหรับการใช้ในภาคครัวเรือนใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 5.88 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 0.9% 

 

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.33 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ พบว่าการใช้ NGV เฉพาะเดือนมีนาคม 2565 สูงขึ้น 1% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มาอยู่ที่ 3.42 ล้านกก./วัน

 

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,036,135 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 12.4%  โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 972,261 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 10.5% สอดคล้องกับความต้องการใช้ในประเทศที่สูงขึ้น โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 93,798 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 95.1% 

 

สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 63,874 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,535 ล้านบาท/เดือน

 

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม – มีนาคม 2565 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา

 

น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 156,798 บาร์เรล/วัน ลดลง 7.2% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 16,637 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 66.6% มูลค่าการส่งออกที่สูงขึ้นสวนทางกับปริมาณการส่งออกที่ลดลง

 

้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของปี 2565