บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ที่กรมบัญชีกลางโอนเงินให้กับผู้ถือบัตรจำนวน 13.45 ล้านรายต่อเดือนนั้น โดยโอนให้ทุกๆ เดือน ดังนี้
ทุกวันที่ 1 ของเดือน
- เติมเงินวงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 500 บาท
- กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน (เดือนนี้สิ้นสุดโครงการเพิ่มกำลังซื้อจำนวน 200 บาท)
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางดังนี้
- ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสาร 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และ ปริมณฑล)
- รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และ สายสีม่วง
- รถไฟฟ้า BTS
- รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
- รถโดยสาร ขสมก
- ค่าก๊าซหุงต้ม จำนวน 100 บาท (เม.ย.-มิ.ย.)
(ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ทุกวันที่ 18 ของเดือน
- เงินคืนค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- เงินคืนค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
ทุกวันที่ 22 ของเดือน
- มีบัตรประจำตัวคนพิการ ได้รับเบี้ยความพิการ (บัญชีธนาคาร/อปท.) จำนวน 800 บาท
- เบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน โอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถึงเดือนกันยายน 2565 จาก รวมเป็นเงิน 1,000 บาท
- เบี้ยความพิการโครงการเราชนะ สำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ผ่านบัตรประชาชน เช่นผู้ป่วยติดเตียง พิการ ผู้ป่วยสูงอายุ จำนวน 200 บาท สามารถกดเป็นเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ได้อีกด้วย
- สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง
- สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้
โดย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้ได้ถึงเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากกระทรวงการคลัง มีนโยบายเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ประมาณเดือนสิงหาคม-กรกฏาคม
สำหรับเงื่อนไขเบื้องต้น
คุณสมบัติ
- มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ไม่เป็นภิกษุ ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์
- ไม่เป็นข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานรัฐที่รับค่าตอบแทนจากรัฐ
- รายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท/คน/ปี และรายได้เฉลี่ยครอบครัวไม่เกิน 1 แสนบาท/คน/ปี
- ต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์
- ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ตามหลักเกณฑ์
เกณฑ์ลงทะเบียนที่ปรับใหม่
- เปิดให้ลงทะเบียนสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ (ก.ค. - ส.ค.65) และเริ่มใช้สิทธิ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
- เปิดรับลงทะเบียนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- มีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- ผู้ได้รับสิทธิปี 2565 จะใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรเดิมใช้ได้ถึงก.ย.65)