ปภ. แจ้งเตือน 14 จังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

15 ม.ค. 2565 | 09:04 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ม.ค. 2565 | 16:12 น.

ปภ. แจ้งเตือน 14 จังหวัด ภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ในระหว่างช่วงวันที่ 15-18 มกราคม 2565

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก)  โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (1/2565) ลงวันที่ 14 มกราคม 2565 แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 15-18 มกราคม 2565 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

 

 

 

จะมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในภาคเหนือตอนบนก่อน ในช่วงวันที่ 15-16 มกราคม 255 ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 17-18 มกราคม 2565 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้แจ้ง 14 จังหวัด เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 15-18 มกราคม 2565 ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง  ได้แก่

 

ภาคเหนือ ในบริเวณพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และอุตรดิตถ์

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในบริเวณพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย และ บึงกาฬ

 

โดยได้ประสานให้จังหวัดเสี่ยงภัยและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที หากประเมินแล้วมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด

 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ภัย และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอันตรายจากฟ้าฝ่า หากได้รับความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย”รวมถึง สายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.

 

ที่มา: กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง